ส.อ.ท. จ่อหั่นเป้ายอดผลิต-ยอดขาย-ยอดส่งออกรถยนต์ทั้งปี หลัง 9 เดือนหดตัวต่อเนื่อง

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนก.ย. 67 ยอดผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ ยังคงลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงปลายเดือนนี้จะมีการหารือกันว่า ช่วงที่เหลืออีก 3 เดือนจะกลับมาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องปรับเป้าลง เพราะผ่านมา 9 เดือนแล้วยังได้ยอดไม่ถึง 75%

“เดือนหน้าคงแถลงปรับเป้าได้ คิดว่าอาจปรับลดลงหลายหมื่นคัน เฉียดแสนคัน”

นายสุรพงษ์ กล่าว

*ยอดส่งออกวูบ 17.67%

ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน ก.ย.67 อยู่ที่ 80,254 คัน ลดลง 17.67% จากเดือน ก.ย.66 ขณะที่มีมูลค่าการส่งออก 74,836.78 ล้านบาท ลดลง 11.88% จากเดือน ก.ย.66 เช่นกัน ส่งผลให้ยอดส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.67) อยู่ที่ 768,887 คัน ลดลง 6.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่ารวม 724,945.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ยอดส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าชะลอตัวลงเกือบทุกประเทศ เนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลใผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายจากความกังวลต่อสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลางที่ขยายวงกว้างออกไปจากเดิม”

นายสุรพงษ์ กล่าว

*ยอดผลิตลดทั้งในส่วนส่งออกและขายในประเทศ

ขณะที่จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือน ก.ย.67 มีทั้งสิ้น 122,277 คัน ลดลง 25.48% จากเดือน ก.ย.66 โดยเป็นการลดลงทั้งจากการผลิตเพื่อส่งออก 15.78% และการผลิตเพื่อขายในประเทศ 42.31% ตามจำนวนส่งออกและขายในประเทศที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้น 2.17% จากเดือน ส.ค.67 ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1,128,026 คัน ลดลง 18.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ดูตัวเลขเดือนกันยายนแล้วตกใจ ยอดผลิตลดลงทั้งในส่วนที่จะส่งออกและขายในประเทศ”

นายสุรพงษ์ กล่าว

*ยอดขายต่ำสุดในรอบ 53 เดือน

ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ก.ย.67 อยู่ที่ 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน ลดลง 13.59% จากเดือน ส.ค.67 และลดลง 37.11% จากเดือน ก.ย.66 เนื่องจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์ หลังสัดส่วนหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) อยู่ในระดับสูงที่ 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259.330 ล้านบาท ในเดือน ก.ค.67 ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาสสองปี 67 ที่โตต่ำแค่ 2.3% และคาดว่าในปี 67 จะเติบโตแค่ 2.7-2.8% เท่านั้น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค.67 หดตัว 1.91% แสดงถึงรายได้คนทำงานยังคงอ่อนแอ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วง 9 เดือนแรกอยู่ที่ 438,659 คัน ลดลง 25.25% จากช่วงเดียวกันของปี 66

*ยอดจดทะเบียน EV ป้ายแดง

  • ประเภท BEV เดือน ก.ย.67 มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 6,606 คัน ลดลง 25.81% จากเดือน ก.ย.66 และช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 75,653 คัน เพิ่มขึ้น 11.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีจดทะเบียนทั้งสิ้น 206,631 คัน เพิ่มขึ้น 107.18% จากปีที่แล้ว
  • ประเภท HEV เดือน ก.ย.67 มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 9,403 คัน เพิ่มขึ้น 51.00% จากเดือน ก.ย.66 และช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 104,197 คัน เพิ่มขึ้น 59.27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีจดทะเบียนทั้งสิ้น 446,816 คัน เพิ่มขึ้น 37.79% จากปีที่แล้ว
  • ประเภท PHEV เดือน ก.ย.67 มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 734 คัน ลดลง 27.76% จากเดือน ก.ย.66 และช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 7,310 คัน ลดลง 23.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีจดทะเบียนทั้งสิ้น 61,150 คัน เพิ่มขึ้น 17.95% จากปีที่แล้ว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ความต้องการรถ EV ของผู้บริโภคยังมีต่อเนื่อง แต่แนวโน้มที่ลดลงเนื่องจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงขาดความเชื่อมั่นที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะมีความลังเลว่าจะมีการปรับลดราคาหรือไม่ ยอดขายในขณะนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นรถ EV ที่นำเข้า เนื่องจากโรงงานที่เข้ามาลงทุน เพิ่งเริ่มการผลิตจึงยังไม่เต็มกำลัง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top