บรรดาผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีและนักลงทุนของอังกฤษออกมาเตือนว่า เหล่าผู้ประกอบการอาจถูกบีบให้ออกจากอังกฤษ หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าแผนปรับขึ้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น (capital gains tax – CGT)
สื่อหลายสำนักรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า เรเชล รีฟส์ กำลังวางแผนปรับขึ้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น ซึ่งมีผลต่อกำไรที่นักลงทุนได้รับจากการขายหลักทรัพย์ในการลงทุน โดยเดอะ การ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า ภาษีอาจพุ่งสูงถึง 39% ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษกล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ว่า การคาดเดาดังกล่าว “ไม่เป็นความจริง”
ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่า รีฟส์จะประกาศการเปลี่ยนแปลงทางการคลังครั้งใหญ่ในงบประมาณวันที่ 30 ต.ค. เนื่องจากเธอตั้งเป้าที่จะลดการขาดดุลการคลังสาธารณะมูลค่าหลายพันล้าน
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ (The Times) ยังรายงานอีกว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังวางแผนจะเพิ่มภาษีกำไรจากการขายหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ อีก “หลายจุดเปอร์เซ็นต์” นั่นหมายความว่า ใครก็ตามที่ขายหุ้นของตัวเองในการซื้อกิจการ การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หรือการขายหุ้นในตลาดรอง จะถูกเรียกเก็บภาษีจากกำไรที่ได้รับ
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า รีฟส์ยังมีแผนที่จะตัดสิทธิ์การลดหย่อนภาษีจากการจำหน่ายสินทรัพย์ทางธุรกิจ (BADR) ซึ่งอนุญาตให้ผู้ประกอบการจ่ายภาษีลดลงเหลือ 10% ของกำไรที่ได้จากการขายธุรกิจของพวกเขา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 67)
Tags: ขายหุ้น, นักลงทุน, ผู้ประกอบการ, ภาษี, อังกฤษ