นักวิเคราะห์ชี้ ฮามาสไม่ล่มสลาย แม้ “ยาห์ยา ซินวาร์” ถูกสังหาร

นักวิเคราะห์ชาวปาเลสไตน์และเจ้าหน้าที่ฮามาสระบุว่า กองทัพอิสราเอลสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับกลุ่มฮามาสด้วยการสังหาร ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่ม แต่ไม่อาจทำให้กลุ่มฮามาสล่มสลายได้

มาห์มูด เมียร์ดาวี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสในตุรกี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า แม้ว่ากองทัพอิสราเอลสามารถสังหารซินวาร์ได้ “แต่ไม่อาจทำลายหรือยุติการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮามาสได้ เนื่องจากเรายึดมั่นในอุดมการณ์ต่อต้านอิสราเอลที่ขโมยดินแดนของเราและฆ่าคนของเรามานานหลายทศวรรษ”

“หลังการลอบสังหารผู้นำแต่ละครั้ง ฮามาสก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น มุ่งมั่นมากขึ้น และมีความสามารถมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับผู้ยึดครอง ด้วยการคิดค้นวิธีการต่อต้านแบบใหม่ ๆ และในครั้งนี้ก็จะประสบความสำเร็จเช่นกัน”

เมียร์ดาวีกล่าว

ซาเมอร์ เอนบิตาวิ นักวิเคราะห์การเมืองชาวปาเลสไตน์จากเมืองนาบลัสในเขตเวสต์แบงก์กล่าวว่า กลุ่มฮามาสเผชิญความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงจากการเสียชีวิตของซินวาร์ ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มอ่อนแอลง “แต่ไม่ได้หมายความว่าฮามาสจะล่มสลายตลอดกาล”

“อิสราเอลหล่อหลอมชาวปาเลสไตน์ด้วยการก่อสงคราม โดยเฉพาะเด็ก ๆ และวัยรุ่น ซึ่งจะเติบโตขึ้นมาและหาทางแก้แค้นอิสราเอลที่ก่ออาชญากรรมต่อครอบครัว ผืนแผ่นดิน และแม้กระทั่งอนาคตของพวกเขา” เอนบิตาวิให้สัมภาษณ์กับซินหัว พร้อมกับเสริมว่า ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นอุดมการณ์ และไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลเพียงคนเดียว

สำหรับผู้นำคนใหม่ของกลุ่มฮามาสนั้น เอนบิตาวิแสดงความเห็นว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากซินวาร์ เพราะอิสราเอลจะฆ่าเขาเหมือนที่ทำกับผู้สืบทอดตำแหน่งของฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน”

เขาเชื่อว่าฮามาสอาจเลือกผู้นำฝ่ายการเมืองคนใหม่โดยไม่ประกาศชื่อ จนกว่ากลุ่มฮามาสจะฟื้นคืนอำนาจได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรืออาจหลังจบสงครามในฉนวนกาซา

ซูเฟียน อาบู ไซดา อดีตรัฐมนตรีปาเลสไตน์กล่าวกับซินหัวว่า “ที่ผ่านมา การลอบสังหารผู้นำปาเลสไตน์หลายคนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ได้”

“ผมคิดว่าฮามาสจะไม่เปลี่ยนพฤติกรรมและอุดมการณ์ หลังการลอบสังหารทุกครั้ง ผู้นำคนใหม่จะถือกำเนิดขึ้นเสมอ ฮามาสได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวและการปั้นผู้นำคนใหม่จากรุ่นสู่รุ่น”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top