หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งพักตัวไร้ปัจจัยใหม่ บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งกดดันตลาด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งพักตัว โดยที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นมาใกล้ ๆ 4.2% ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ และอาจมี sentiment ต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน

ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่าจะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่

ให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,480 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,931.60 จุด ลดลง 344.31 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,853.98 จุด ลดลง 10.69 จุด หรือ -0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,540.00 จุด เพิ่มขึ้น 50.45 จุด หรือ +0.27%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,933.60 จุด ลดลง 21 จุด หรือ -0.05% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,433.49 จุด ลดลง 44.97 จุด หรือ -0.22% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,263.82 จุด ลดลง 4.29 จุด หรือ -0.13%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ต.ค.) ที่ 1,488.74 จุด ลดลง 1.08 จุด (-0.07%) มูลค่าซื้อขาย 41,652.35 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 611.44 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (21 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ต.ค.) อยู่ที่ 3.83 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.52 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดจับตาสถานการณ์ตอ.กลาง-เลือกตั้งสหรัฐ

– จับตา “ไทย” เสี่ยงถูกหั่น เครดิตเรตติ้ง “อีไอซี” มอง 3 ปัจจัยเสี่ยง หนี้รัฐสูงติดเพดาน-การเมือง-ธรรมาภิบาล “กรุงไทย” มองไทยยังมีเสถียรภาพ แต่อีก 10 ปี จีดีพีโตต่ำ 3% อาจเผชิญจุดอันตรายเผชิญหนี้ มากกว่ารายได้ “หอการค้า” ชี้การเมืองไทยยังไม่แน่นอน กระทบประสิทธิภาพนโยบายเศรษฐกิจ ส.อ.ท.หวั่นต้นทุนการเงินไทยพุ่ง “ทีดีอาร์ไอ” นโยบายเศรษฐกิจระยะสั้น ดันขาดดุลงบประมาณเพิ่ม

– “บีโอไอ” มองเทรนด์ลงทุนปลายปี 67 เติบโตต่อเนื่องถึงปี 2568 กลุ่ม เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง-ดิจิทัลอีวี-พลังงานหมุนเวียนมาแรง เผยยอดขอลงทุน 9 เดือนปีนี้ ทะลุ 7.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% สูงสุดในรอบ 10 ปี นำโดยสิงคโปร์จีน ฮ่องกง ชี้ยอดออกบัตรส่งเสริมพุ่ง 101% ชี้บริษัทเร่งลงทุนภายใน 1-3 ปี หลังรับบัตรส่งเสริม

– “สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย” จี้รัฐตั้งทีม JTC เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชาด่วน! “คุรุจิต” ลั่นประเทศรอไม่ได้ หากช้าไปนักลงทุนต่างชาติถอนตัว พร้อมแนะสานต่อเอ็มโอยู 2544 เน้นแบ่งผลประโยชน์สองฝ่าย ไม่ยุ่งเกี่ยวเขตแดน “พิชัย” ระบุหากขุดเจาะสำเร็จเงินหมุนเวียนไหลเข้าไทยปีละ 1 ล้านล้านบาท ลดนำเข้า LNG กดต้นทุนค่าไฟฟ้าเหลือ 2 บาทกว่า ขณะที่กลุ่มปตท.พร้อมเปิดหลุมแหล่งก๊าซ OCA ผลิตได้ภายใน 5 ปี

– ราคาทองคำยังเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามแนวโน้มราคาทองคำโลกที่ปรับตัวขึ้นทำ All-Time high บวกค่าเงินบาทอ่อนค่า ด้าน “ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฯ-วายแอลจี” มั่นใจทองคำยังขาขึ้น ฟาก “มอร์นิ่งสตาร์” เปิดกองทุนทองคำกำไรงาม สูงกว่า 33.00% บลจ.ไทยพาณิชย์ แชมป์กองทุนติด TOP 10 กำไรพุ่งมากสุด

– รัฐบาลลั่นกลาง Bitkub Summit 2024 พร้อมเดินหน้าดันไทยฮับฟินเทค ด้านบิ๊กบิทคับเปิดจุดเปลี่ยนโลก ไทยต้องเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล “เสี่ยยักษ์-ประกิต” เห็นพ้องหุ้นไทยยังไปได้ ขณะที่วงการมองคริปโทมีอนาคต DCA บิทคอยน์ได้

 

หุ้นเด่นวันนี้

– บมจ. ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TMAN” ในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 โดยราคา IPO หุ้นละ 16.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากหุ้นใหม่ 1,164.31 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,520.05 ล้านบาท

– AP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 10.90 บาท เราคาดถึงแม้กำไรของ AP ในไตรมาส 3/67 จะลดลง 15% YoY และจะเพิ่มขึ้น 13% QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวลดลง แต่เรามองว่าน่าจะเป็นจุด Bottom-out แล้วสำหรับ AP โดยเรามอง AP เป็นหุ้นเด่นที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยมองว่ามี Backlog ค่อนข้างแข็งแรงและคาดว่าจะสามารถทำกำไรสูงสุดในไตรมาส 4/67 ได้อีกครั้ง เรามองว่า Presale ใน3Q24 ที่มีการเติบโตขึ้น +15% YoY จากส่วนของ Low-rise ที่ +7%YoY และ Condo ที่ +35% YoY จะเป็นตัวช่วยให้ Backlog สำหรับการโอนในไตรมาส 4/67 และปี 2568 มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรามองว่าเมื่ออุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวดีขึ้น บริษัทที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำจะได้เปรียบซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของ AP ในปี 2568

– BEM (อินโนเวสท์ เอกซ์) มองครึ่งหลังปี 67 คาดกำไรจะแข็งแกร่งขึ้น HoH ส่วนไตรมาส 3/67 คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นค่าโดยสาร MRT อีกทั้งมองมี Upside Risk เพิ่มเติมจากโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งเรายังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ

– COCOCO (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.50 บาท มีปัจจัยหนุนจากตัวเลขมูลค่าการส่งออกน้ำมะพร้าวของไทยที่เติบโตสูงในเดือน ก.ค.-ส.ค. ส่งผลให้แนวโน้มยอดขายและกำไรปกติในไตรมาส 3/67 ของบริษัทน่าจะเติบโตได้ดีทั้ง QoQ, YoY เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนในสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงการรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ในจีน โดยสินค้าประเภทน้ำมะพร้าวยังคงขายดีและช่วยสร้าง GPM ให้ดีขึ้นตาม U-rate ที่สูงขึ้น ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มทำกำไรต่อเนื่อง ทั้งนี้จาก Consensus ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 929 ล้านบาท +72%YoY และ 1.27 พันล้านบาท +37%YoY

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top