CPALL บวก 3.04% มาอยู่ที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,509.28 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.30 น. โดยเปิดตลาดที่ 65.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 68.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 65.50 บาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า งวด 3Q67 คาดกำไรเติบโต 36%y-y, -6%q-q อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท y-y หนุนจาก 1.ยอดขายสาขาเดิมยังขยายตัวต่อเนื่องทุก Format 2. อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวต่อเนื่อง จากการปรับมาขายสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูง ในกลุ่มอาหาร ส่วน q-q ลดลงจากผลของฤดูกาล
Valuation: ซื้อขาย PER2025F ที่ 23 เท่า
Catalyst : การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่องของธนาคารกลางหลักโลก รวมถึงไทยที่เริ่มปรับกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นภาพบวกสร้าง Upside ทางพื้นฐานต่อ CPALL จาก 1.กำลังซื้อภายในที่ดีขึ้น หนุนยอดขาย 2.CPALL อยู่ในฐานะหุ้นหนี้สูง ช่วยให้มีโอกาสเห็นประโยชน์ภาระดอกเบี้ยค่อยๆลดลงระยะถัดไป นอกจากนี้ CPALL ถือเป็นหนึ่งในหุ้นหลักของ SET ที่ยัง Laggard หุ้น Big Cap มองมีโอกาสเป็นเป้าหมายกองทุนวายุภักษ์กลุ่มถัดไป
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดว่าแนวโน้มกำไรจะดียิ่งขึ้นใน 2H67 เมื่อเทียบกับ 1H67 จากผลของฤดูกาลจับจ่ายและท่องเที่ยวช่วงปลายปีรวมถึงการขยายสาขาต่อเนื่อง หนุนกำไรปี 67 ขยายตัว 24.9%YoY ขณะที่ปี 68 คาดขยายตัวต่อเนื่องที่ 12.9%YoY
นอกจากนี้เชื่อว่า CPALL ได้ประโยชน์จากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนที่ช่วยหนุนต่อ SSSG ในช่วง 4Q67 และมีโอกาสแรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นภาคบริโภคปลายปี เช่น Easy Receipt ซึ่งจะถือเป็น Upside ที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการของเรา
ในด้าน Valuation CPALL ซื้อขายบน PER68E 23.2 เท่า ถูกกว่าเมื่อเทียบกับ CPAXT ที่ซื้อขายบน PER68E 27.5 เท่าหรือคิดเป็นการ Discount มากถึง 15.6% ซึ่งเรามองว่าเป็นช่องว่างที่ต่างกันมากเกินไป (ทั้งนี้ CPALL ถือหุ้นอยู่คิดเป็นสัดส่วน 59.9%) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 78.00 บาท
บล.พาย แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) มาจากกลุ่มอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 76.3% ในไตรมาส 2/67 เพิ่มจาก 75.2% ในไตรมาส 1/67 และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 67)
Tags: CPALL, ซีพี ออลล์, หุ้นไทย, โบรกเกอร์