แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติความรุนแรงต่อประชาชน ในโอกาสที่บลิงเคนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมกับบรรดาผู้นำชาติอาเซียนที่สปป.ลาว ในสัปดาห์นี้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวง
แดเนียล คริเทนบริงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวว่า สถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 5,300 รายนับตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2564 เป็น “ประเด็นสำคัญ” ที่บลิงเคนจะหยิบยกขึ้นมาหารือระหว่างการประชุมที่เกี่ยวข้องกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ทั้งนี้ บลิงเคนจะเป็นผู้แทนของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมที่นครหลวงเวียงจันทน์ของสปป.ลาว เป็นเวลา 4 วันจนถึงวันศุกร์ แทนประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือคาเมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ในขณะที่เหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนการเลือกตั้งปธน.
คริเทนบริงค์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (8 ต.ค.) ว่า ขั้นตอนที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องดำเนินการ ได้แก่ การยุติความรุนแรง การปล่อยนักโทษการเมือง และการเจรจากับฝ่ายค้านที่เป็นประชาธิปไตย
“น่าเสียดายที่เราแทบไม่เห็นความคืบหน้าในประเด็นสำคัญเหล่านั้นเลย” เขากล่าว “ดังนั้น ผมคาดว่าท่านรัฐมนตรีจะยังคงเน้นย้ำกับพันธมิตรในภูมิภาคว่าเราต้องเดินหน้ากดดันรัฐบาลทหารต่อไป”
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนประจำปีนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และรัฐบาลทหารเมียนมาได้คว่ำบาตรกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนมานับตั้งแต่นั้น
การที่เมียนมาส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมอาเซียนทั้งในระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำในปีนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลทหารหวังที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับสมาชิกชาติอื่น ๆ อย่างไรก็ดี สมาชิกอาเซียนมีมติเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่าจะอนุญาตเฉพาะผู้แทนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองจากเมียนมา โดยห้ามผู้นำรัฐบาลทหารเข้าร่วมการประชุม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 67)
Tags: รัฐบาลทหาร, สหรัฐ, เมียนมา, แอนโทนี บลิงเคน