กำไรซัมซุงคาดพุ่ง 4 เท่า แต่เสี่ยงเสียแชมป์ DRAM หลังพลาดท่ากระแส AI

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) ยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยีระดับโลก ผู้ครองแชมป์การผลิตชิปหน่วยความจำ สมาร์ตโฟน และทีวี มีแนวโน้มจะรายงานผลกำไรในไตรมาสที่ 3/2567 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม สัญญาณการฟื้นตัวกลับไม่สดใสเท่าที่ควร เนื่องจากบริษัทยังปรับตัวช้าในการรับมือกับกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังมาแรง

จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 29 รายใน LSEG SmartEstimate ซัมซุงอาจทำกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 (ก.ค.-ก.ย.) สูงถึง 10.33 ล้านล้านวอน (7.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดจาก 2.43 ล้านล้านวอนในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กลับทรงตัวเมื่อเทียบกับ 10.44 ล้านล้านวอนในไตรมาสที่ 2

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า แม้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะฟื้นตัวจากภาวะซบเซาในปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากความต้องการชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ที่พุ่งสูงขึ้น แต่ความต้องการชิปทั่วไปสำหรับสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์กลับชะลอตัวลง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ซัมซุงกำลังเร่งไล่ตามคู่แข่งอย่างเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) และไมครอน (Micron) ในการชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อป้อนชิป AI ระดับไฮเอนด์ให้กับอินวิเดีย (Nvidia) ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นจากบริษัทจีนในตลาดชิปทั่วไป

นักวิเคราะห์ประมาณการว่า แผนกผลิตชิป ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของซัมซุง จะพลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานราว 5.5 ล้านล้านวอน เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ลดลง 15% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกันเงินสำรองเพื่อจ่ายโบนัสพนักงาน

นักวิเคราะห์มองว่า การที่ซัมซุงตอบสนองช้าต่อตลาดชิป AI ประกอบกับการพึ่งพาตลาดจีนและชิปมือถือแบบดั้งเดิมมากกว่าคู่แข่ง ทำให้ซัมซุงเปราะบางต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และภาวะดีมานด์ที่ซบเซา

ดาเนียล คิม นักวิเคราะห์จากแมคควอรี อิควิตี รีเสิร์ช (Macquarie Equity Research) ให้ความเห็นในบทวิเคราะห์ล่าสุดว่า “หากตลาดชิป DRAM ทั่วไปอ่อนแอลง ซัมซุงมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาด DRAM อันดับหนึ่ง … กล่าวคือ ภาวะอุปทานล้นตลาดของชิป DRAM แบบดั้งเดิมจะส่งผลกระทบต่อซัมซุงมากกว่าเอสเค ไฮนิกซ์ อย่างเห็นได้ชัด”

ทั้งนี้ ชิป DRAM หรือ Dynamic RAM เป็นชิปที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน

ขณะที่ซัมซุงส่งสัญญาณไม่สู้ดีนัก ทางฝั่งไมครอนกลับประกาศข่าวดี โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ไมครอนได้คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสแรกที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทประเมินไว้ พร้อมทั้งรายงานรายได้รายไตรมาสสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ โดยได้อานิสงส์จากความต้องการชิปหน่วยความจำสำหรับอุตสาหกรรม AI ที่กำลังบูม

นักวิเคราะห์ประเมินว่า ธุรกิจชิปที่ไม่ใช่หน่วยความจำของซัมซุง ซึ่งรวมถึงการออกแบบชิปและการรับจ้างผลิต ยังคงขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาส 3 เนื่องจากยังสู้กับผู้นำตลาดอย่าง TSMC ไม่ไหว โดย TSMC มีลูกค้ารายใหญ่อย่างแอปเปิ้ล (Apple) และอินวิเดีย

ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนก.ย.ว่า ซัมซุงกำลังลดพนักงานในต่างประเทศลงถึง 30% ในบางแผนก สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่บริษัทกำลังเผชิญ

นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนพรีเมียมแบบพับได้ของซัมซุงอาจไม่เป็นไปตามเป้า ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นจากคู่แข่งจีนอย่างหัวเว่ย (Huawei)

ทั้งนี้ ธุรกิจโทรศัพท์มือถือและธุรกิจเครือข่ายของซัมซุงคาดว่าจะทำกำไรจากการดำเนินงานได้ 2.6 ล้านล้านวอนในไตรมาส 3 ลดลง 20% จากปีก่อน ตามการประเมินของนักวิเคราะห์ 10 รายที่รอยเตอร์รวบรวม

อนึ่ง หุ้นซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ร่วงลง 23% นับตั้งแต่ต้นปี สวนทางกับหุ้นของเอสเค ไฮนิกซ์ ที่พุ่งขึ้น 23%

ซัมซุงมีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการเบื้องต้นประจำไตรมาส 3/67 ในวันอังคารนี้ (8 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะรายงานตัวเลขอย่างละเอียดในช่วงปลายเดือน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top