หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ในกรอบขาดปัจจัยหนุนใหม่ จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐศุกร์นี้

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศที่จะส่งผลต่อทิศทางของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันตลาดยังรอติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในคืนวันศุกร์นี้ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในครั้งหน้า ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยที่ตลาดหุ้นจีนยังปิดทำการในวันชาติ

พร้อมให้แนวต้าน 1,455 จุด แนวรับ 1,435 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 ก.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,330.15 จุด เพิ่มขึ้น 17.15 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,762.48 จุด เพิ่มขึ้น 24.31 จุด หรือ +0.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,189.17 จุด เพิ่มขึ้น 69.58 จุด หรือ +0.38%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,232.47 จุด เพิ่มขึ้น 312.92 จุด หรือ +0.83% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.47% ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันกองทัพ

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ก.ย.67) ที่ 1,448.83 จุด ลดลง 1.32 จุด (-0.09%) มูลค่าซื้อขาย 52,891.29 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (30 ก.ย.67) 970.31 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 68.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ก.ย.67) อยู่ที่ 2.27 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.44 กลับมาอ่อนค่า หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย จับตา Flow ไหลออก

– จับตาเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านบาท “ภายุภักษ์ หนึ่ง” ทยอยเข้าตลาดหุ้นไทย เริ่มวันนี้ (1 ต.ค.) “ชวินดา” ชี้เน้นพื้นฐานและมีสภาพคล่องดี มีความมั่นคงในระยะยาว โบรกฯ ย้ำวายุภักษ์ฯ หนุนหุ้นไทยไตรมาส 4/67 แน่ แนะนำลงทุนหุ้นได้ประโยชน์จากกองทุนฯ และอยู่ใน Thai ESG เช่น AOT KTB PTT CPALL SCC MINT CRC HMPRO SCGP ADVANC GULF KBANK BBL WHA ฯลฯ

– “แบงก์ชาติ” รับเข้าดูแลค่าเงินช่วงบาทผันผวนหนัก-แข็งค่าเร็วเพื่อลดผลกระทบ ดันทุนสำรองระหว่างประเทศขยับเพิ่ม ด้าน “เอกชน” รับห่วงสถานการณ์บาทแข็งหนัก ทำผู้ประกอบการตั้งตัวไม่ติด หวัง “คลัง-แบงก์ชาติ” หันหน้าคุย กำหนดนโยบายที่เหมาะสม

– เรืองไกรกาง “7 ข้อสงสัย” ปมนายกฯแพทองธาร โอนหุ้นให้ “คุณหญิงพจมาน” ลุยร้อง กกต.สอบนายกฯ ถือหุ้นสนามกอล์ฟ อัลไพน์ฯ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ผิดจริยธรรม ส่อหลุดเก้าอี้หรือไม่

หุ้นเด่นวันนี้

– BBL (ฟินันเซียฯ) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 184 บาท คาดเป็นหนึ่งในแบงก์ที่ได้ประโยชน์มากสุดจากการลงทุนรอบใหม่ตามภาวะเศรษฐกิจเร่งตัวจากนโยบายของรัฐบาล รวมถึงงบประมาณที่ไม่ล่าช้าเหมือนปีก่อน และคาดกนง.คงดอกเบี้ยรอบประชุม ต.ค. จุดเด่นคือ Valuation ยังถูกมาก เทรด PBV เพียง 0.5 เท่า ด่าสุดในกลุ่มธนาคาร และให้ Dividend Yield เกือบ 5% ต่อปี โดยคาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายลงทุนของกองทุนวายุภักษ์

– KTB (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 24.00 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อโอกาสปรับประมาณการณ์ขึ้นจาก ROE สูงราว 10% แต่ยังมี PBV ที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับ ROE และยังได้รับประโยชน์จากเร่งลงทุนและเบิกจ่ายของภาครัฐที่ KTB มีสัดส่วนเงินกู้ยืมภาครัฐราว 15% นอกจากนี้ Asset quality ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยมีสำรอง LLR/Loan ในระดับสูงเป็นอันดับสองของกลุ่มธนาคาร และยังมี Tier 1 capital ที่เหลือค่อนข้างเยอะ เรามองมีโอกาสทำ capital management เช่นเดียวกันกับธนาคารอื่นๆ

– WHA (พาย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท ประเด็นใหม่ที่น่าสนใจคือการปรับเป้ายอดขายที่ดินขึ้นเป็น 2,500 ไร่ จากเดิม 2,400 ไร่ตอนการประชุมนักวิเคราะห์รอบล่าสุดหลังเซ็นสัญญาขายที่ดิน 400 ไร่ และยังเจรจาอีกกว่า 600 ไร่ รวมถึงประกาศแผนลงทุนเพิ่มสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อขายให้ลูกค้าในนิคมช่วยเพิ่มรายได้อีกทาง ส่วนเป้าหมายธุรกิจอื่นยังใกล้เคียงเดิม ทั้งพื้นที่เช่าใหม่ ปริมาณขายน้ำ และธุรกิจไฟฟ้า บริษัทมองว่าแนวโน้ม H2/67 ดีกว่าครึ่งปีแรก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top