อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจยงซันโดนคุก 3 ปี คดีเหยียบกันตายที่อิแทวอน แต่หัวหน้าเขตรอด

ในวันนี้ (30 ก.ย.) ศาลกรุงโซลได้ตัดสินจำคุก ลี อิมแจ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจยงซันเป็นเวลา 3 ปีโดยไม่ต้องใช้แรงงาน ในคดีเหตุการณ์เหยียบกันตายที่ย่านอิแทวอนในปี 2565 โดยศาลระบุว่าเหตุการณ์นี้สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่ลีกลับไม่ได้ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยมากเพียงพอ

สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ลี อิมแจ วัย 54 ปี ถูกตั้งข้อหาเมื่อปีที่แล้วในความผิดฐานประมาทเลินเล่อทางวิชาชีพจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุการณ์เบียดเสียดในฝูงชนครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 159 คนในช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่ย่านอิแทวอน เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2565

“เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า การที่ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันในตรอกแคบที่ลาดเอียงในย่านอิแทวอนเพื่อฉลองเทศกาลฮาโลวีนปี 2565 นั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย เนื่องจากการเบียดเสียดและดันกันไปมาของฝูงชน” ศาลระบุ

ด้าน พัค ฮีย็อง หัวหน้าสำนักงานเขตยงซัน และเจ้าหน้าที่เขตคนอื่น ๆ ก็ถูกฟ้องด้วยเช่นกัน แต่ศาลเดียวกันนี้พิพากษาว่าพวกเขาไม่มีความผิด โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ได้กำหนดให้พวกเขาต้องวางมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับงานอีเวนต์ที่ไม่มีผู้จัด

“ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ กฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่ได้จัดให้การเบียดเสียดของฝูงชนจำนวนมากเป็นภัยพิบัติประเภทหนึ่ง และไม่มีข้อบังคับใด ๆ ที่ระบุว่าต้องมีแผนจัดการความปลอดภัยแยกต่างหากสำหรับงานที่ไม่มีเจ้าภาพจัด” ศาลระบุ

อัยการอ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้ทำตามหน้าที่ในการป้องกันเหตุการณ์สลด ทั้งที่น่าจะคาดการณ์ได้ว่าอาจเกิดอุบัติเหตุจากฝูงชนขนาดใหญ่ จึงเรียกร้องให้ลงโทษจำคุกทั้งลีและพัคเป็นเวลา 7 ปี

อย่างไรก็ตาม จำเลยยืนกรานตลอดการพิจารณาคดีว่า ไม่มีทางคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ฝูงชนแออัดในระดับนี้ พวกเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน มีผู้ถูกฟ้องร้องทั้งหมด 23 ราย รวมถึงบริษัท 2 แห่ง ในคดีที่เกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้

หลังจากที่ศาลมีคำตัดสิน ญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตได้จัดแถลงข่าวหน้าศาล พวกเขาประณามคำตัดสินที่ปล่อยตัวหัวหน้าสำนักงานเขตยงซันโดยไม่มีความผิด และเรียกร้องให้อัยการยื่นอุทธรณ์คำตัดสินสำหรับจำเลยทั้งสองคนเพื่อให้ได้รับโทษที่หนักขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top