CFARM ควักเงินลงทุนราว 420 ลบ.ผุดฟาร์มวัวนม 1,250 ตัวในบุรีรัมย์คาดเริ่มผลิต Q1/69

บมจ. ชูวิทย์ฟาร์ม(2019) (CFARM) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมโค ขนาด 1,250 ตัว พร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักรการผลิตน้ำนมดิบเฉลี่ย 17,000,000 ล้านลิตรต่อปี บนที่ดินของบริษัท ที่ตำบลโคกสูง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ขนาดพื้นที่ 357-2-29 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 419.58 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตนมเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/69

พร้อมอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อนำมาใช้ลงทุนดังกล่าว

นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ CFARM เปิดเผยว่า การลงทุนดังกล่าวเป็นการต่อยอดการเติบโตและหาโอกาส ใหม่ในการกระจายความเสี่ยงของบริษัทไปสู่ธุรกิจใกล้เคียง คือกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาส และช่องทางการเติบโตจากลงทุนในอุตสาหกรรมโค ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนจากการดำเนินงาน รวมถึงเป็นโอกาสในการเติบโตที่มั่นคงให้บริษัทในระยะยาว

สำหรับแหล่งที่มาของเงินลงทุนในโครงการดังกล่าว มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และ/หรือ ขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ณ 30 มิ.ย.67 บริษัทยังมีเงินระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO คงเหลือ 156.62 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าว โดยจะมีการจัดประชุมครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 1 พ.ย.67 ซึ่งต้องได้รับมติอนุมัติไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้มีสิทธิออกเสียงและมาร่วมประชุม

หากบริษัทไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น บริษัทยังสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนสำรองจากสถาบันการเงิน และ/หรือจากแหล่งเงินทุนอื่น เพื่อพัฒนาโครงการต่อไป โดยบริษัทจะพิจารณาจัดหาแหล่งเงินทุนอย่างระมัดระวัง โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นเป็นสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้

บริษัทคาดว่าการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อการดำเนินธุรกิจ และสภาพ คล่อง ณ ปัจจุบันของบริษัท และบริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจหลักต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าว เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว อีกทั้งการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายจะช่วยเสริมสร้าง ความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัท และยังถือเป็นช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย

นายชูรัตน์ กล่าวว่า บริษัทจำเป็นต้องพิจารณาและลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อเพียงประเภทเดียว บริษัทจึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโค คาดว่าธุรกิจดังกล่าวอาจจะส่งผลดี และช่วยในการกระจายความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน บริษัทจึงขยายไปในอุตสาหกรรมโคเพื่อเลี้ยงและผลิตน้ำนม คาดว่าจะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจและช่วยในการกระจายความเสี่ยง สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top