นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง แสดงความกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ เพราะมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งทั้ง 2 ส่วนถือเป็นรายได้หลักของประเทศ
สถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนี้ มี 2 เรื่องหลัก คือ
1. ค่าเงินบาทผันผวน เห็นได้จากเงินบาทขยับขึ้นไปแตะระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ และลงมาอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ มีช่องว่างถึง 10% ตรงนี้เป็นตัวเลขที่น่ากลัว
2. เงินบาทแข็งค่ากว่าภูมิภาค แข็งค่ากว่าคู่ค้า และแข็งค่ากว่าคู่แข่ง
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า นโบายการเงินของไทยคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสอดคล้องกับทิศทางนโยบายการเงินของโลก เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก หากเรามีนโยบายการเงินที่ไม่สอดคล้องกับคนอื่น ค่าเงินก็จะเกิดการผันผวนในลักษณะแบบนี้ ซึ่งประเทศไทยไม่ใช่ประเทศปิด และเป็นประเทศขนาดเล็ก ดังนั้น การพูดคุยกันเรื่องภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องการทำนโยบายทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
“สถานการณ์ค่าเงินบาทในขณะนี้ เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมานั่งจับเข่าและหาข้อสรุปร่วมกัน จะปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปแบบนี้ไม่ได้ มองว่าการที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นขนาดไหน อยู่ที่ทิศทางการเงินของโลกเป็นหลัก ขณะนี้นโยบายการเงินของโลกเราเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นหลักในทุก ๆ ภูมิภาค และอัตโนมัติคือเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น หากเราไม่ทำอะไร มันก็จะเป็นสัญญาณที่ไม่ดี” รมช.คลัง กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 67)
Tags: ค่าเงินบาท, นโยบายการเงิน, อัตราดอกเบี้ย, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท, เผ่าภูมิ โรจนสกุล