บมจ.แอลทีเอ็มเอช (LTMH) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 50,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อขยายธุรกิจเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายธณัฐ เตชะเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LTMH เปิดเผยว่า เริ่มก่อตั้งเพจ “ลงทุนแมน” ในปี 2560 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดเรื่องราวธุรกิจและการลงทุนที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในธุรกิจและชีวิตประจำวันได้ ก่อนที่จะต่อยอดธุรกิจจนมีแบรนด์สื่อออนไลน์ระดับ Mega-Influencer ผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 คน คือ ลงทุนแมน และ Macro-Influencer ผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน อีก 5 แบรนด์ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย ได้แก่ ลงทุนเกิร์ล, MarketThink, BrandCase, MONEY LAB และ Mao-Investor ด้วยฐานผู้ติดตามกว่า 8,000,000 คน บนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ (ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2567)
LTMH ยังเป็นผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด และยังมีแพลตฟอร์มสื่อ Blockdit ที่พัฒนาโดยหน่วยงานเทคโนโลยีของ LTMH ที่มีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly Active Users) ประมาณ 2,000,000 คน (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567)
ขณะเดียวกัน LTMH ยังได้เข้าลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ของบริษัทฯ เช่น การเข้าลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของ บลจ.ทาลิส ซึ่งประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.
LTMH มีแผนจะขยายขอบเขตเข้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง จึงได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบธุรกิจให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน และ/หรือ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อขออนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะสามารถยื่นคำขออนุญาตภายในไตรมาส 4/67
โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัก ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีกลุ่มครอบครัวนายธณัฐ เตชะเลิศ ถือหุ้น 100,538,600 หุ้น คิดเป็น 67.03% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 50.27% บริษัท เอ๊าท์ดอร์ มีเดีย อินเวสเม้นท์ จำกัด 25,498,200 หุ้น คิดเป็น 17.00% จะลดเหลือ 12.75% และนายเอก ตังคนานนท์ 14,997,400 หุ้น คิดเป็น 10% จะลดเหลือ 7.50%
สำหรับบริษัท เอ๊าท์ดอร์ มีเดีย อินเวสเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งในฮ่องกง มีผู้ถือหุ้น คือ Hope Plus Limited ถือหุ้น 100% ซึ่ง Hope Plus จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีนายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ถือหุ้น 50% และนายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ ถือหุ้น 50% ทั้งสองผู้บริหารระดับสูงของ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB)
“LTMH ตั้งขึ้นโดยมีพันธกิจ ที่ต้องการช่วยให้ทุกคนมีความรู้ในการสร้างความมั่งคั่ง และสร้างเครื่องมือที่ช่วยยกระดับฐานะการเงินของทุกคน กลยุทธ์หลักของบริษัทฯ คือ มุ่งส่งเสริมการเติบโต โดยการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจ ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างรายได้ในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญจากธุรกิจใหม่ ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตของธุรกิจเดิมอย่างเหมาะสม” นายธณัฐ กล่าว
งบการเงินของบริษัทงวดบัญชีปี 64-66 มีรายได้รวมเท่ากับ 118.06 ล้านบาท, 173.90 ล้านบาท และ 225.77 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 47.29% ในปี 65 และ 29.83% ในปี 66 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 38.29% สัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มสื่อ (ออนไลน์) 92.5% (ปี 66) ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 21.68 ล้านบาท 31.18 ล้านบาท และ 37.58 ล้านบาท ตามลำดับ
งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้ 94.09 ล้านบาท กำไร 3.59 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 95.51 ล้านบาท กำไร 10.81 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 243.85 ล้านบาท หนี้สินรวม 130.03 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 113.82 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทในแต่ละปี ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 67)
Tags: LTMH, ลงทุนแมน, หุ้นไทย, แอลทีเอ็มเอช