การตลาดสายมู (Muketing) หรือการผนวกรวมกลยุทธ์การตลาดเข้ากับความเชื่อและศรัทธา ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา แบรนด์และนักการตลาดต่างมองหาช่องทางในการใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มความสำเร็จทางการตลาด ในงาน MITCON 2024 คุณภัทฒ อัครธนันกานต์ ผู้ก่อตั้ง Sereniques ได้เผยแนวทางและเคล็ดลับในการทำการตลาดสายมูให้ตอบโจทย์ยุคปัจจุบัน ภายใต้หัวข้อ “Integrating Muketing into Marketing” ในงาน Marketing Insight & Technology Conference 2024
โอกาสของธุรกิจในไทย
มูลค่าตลาดของเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับมูเตลูทั่วโลกแตะ 4.93 แสนล้านบาท และคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเติบโตถึง 1.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ในไทย มูลค่าตลาดของการมูเตลูอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ผลสำรวจเผยว่า 96% ของคนไทยใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูดวงหรือทำบุญ และกว่า 75% หรือราว 52 ล้านคนยังคงเชื่อในเรื่องมูเตลู โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยใช้จ่ายประมาณ 500 บาทต่อครั้งในการดูดวง และดูดวงประมาณ 3.2 ครั้งต่อปี ซึ่งหมายความว่าคนไทยจ่ายเงินเฉลี่ยประมาณ 1,500 บาทต่อปีในการดูดวง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทองที่แบรนด์สามารพัฒนากลยุทธ์การตลาดสายมูให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมคนยังชอบการมูเตลู
– ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหา หลายคนอยากรู้อนาคตของตนเอง เพื่อค้นหาแนวทางหรือวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
– ช่วยในการตัดสินใจ ในโลกที่มีข้อมูลซับซ้อนจำนวนมาก ผู้คนมักรู้สึกสับสน การมูเตลูจึงช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น
– ช่วยรับมือสถานการณ์ที่ยากลำบาก ผู้คนมักมองหาความสบายใจและความมั่นใจ เมื่อเผชิญปัญหาหรือความไม่แน่นอน
– ความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ผู้คนเสพเพื่อความสนุกสนานและสบายใจ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เสียหาย
– คาดการณ์โอกาส ผู้คนมองหาจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินชีวิต เช่น ฤกษ์ที่ดีที่สุดในการเปิดกิจการ
5 เทคนิคทำการตลาดสายมูให้ปัง เสริมดวงธุรกิจให้รุ่ง
1. เข้าจิตเข้าใจลูกค้า ดันยอดขายโต 79.59%
แบรนด์ต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคว่าต้องการอะไร และสื่อสารให้ตรงกับความต้องการ เช่น แบรนด์สามารถใช้ศาสตร์มูเตลูกับการตลาดเฉพาะบุคคล โดยอาจนำข้อมูลวันเกิดของลูกค้ามาแบ่งแยกตามธาตุประจำตัว เพื่อส่งข้อความสินค้าหรือโปรโมชั่นที่เหมาะสมตามคนแต่ละธาตุ เช่น คนธาตุไฟชอบลักษณะข้อความที่น่าตื่นเต้น แต่คนธาตุน้ำต้องการข้อมูลที่มีความละเอียด
2. สร้างความแตกต่างด้วย MUITEM
แบรนด์สามารถนำความเชื่อด้านมูเตลูมาเป็นจุดขาย เพื่อสร้างความแตกต่างของสินค้าในตลาด เช่น ในธุรกิจเครื่องประดับที่มีคู่แข่งล้นตลาด แทนที่จะทำเครื่องประดับทั่วไปที่เน้นแต่เรื่องความสวยงาม แบรนด์อาจหันมาทำเครื่องประดับสายมู ซึ่งจะยิ่งช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มเหตุผลในการซื้อสินค้าด้วย GIMMU
นอกจากสินค้าสายมู แบรนด์อาจเพียงแค่นำกิมมิคสายมูหรือ GIMMU มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและกระตุ้นยอดขาย เช่น การเปลี่ยนผ้าปูเตียงธรรมดาให้เป็นผ้าปูเตียงสีมงคล ซึ่งจะดึงดูดลูกค้าที่ต้องการเสริมโชคลาภ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ธรรมดาให้เป็นเบอร์มงคล ก็ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้านั้นได้เช่นกัน
4. ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยมูเตลู
แบรนด์สามารถนำกิจกรรมมูเตลูมายกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในช่องทางออฟไลน์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้นและดึงดูดความสนใจเพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มกิจกรรมเสี่ยงเซียมซีเข้ามาในบูธขายของ หรือร้านชานมไข่มุกชื่อดังจากไต้หวันอย่าง Xing Fu Tang ที่ให้ลูกค้าเสี่ยงเซียมซีหลังจากซื้อชานม ซึ่งไม่เพียงช่วยกระตุ้นยอดขาย แต่ยังสร้างประสบการณ์พิเศษที่ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น
5. เพิ่มความเชื่อสายมูมาในคอนเทนต์บ้าง
แบรนด์สามารถหยิบความเชื่อสายมู เช่น ปีชง เลขสีมงคล หรือวันมงคล มาสร้างสรรค์คอนเทนต์ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความน่าสนใจของคอนเทนต์ แต่ยังสามารถเพิ่ม engagement ได้ถึง 3.5 เท่า เช่น แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการขายบ้านจัดสรรร อาจทำคอนเทนต์เกี่ยวกับบ้านเลขที่มงคล ซึ่งดึงดูดให้ผู้บริโภคดูคอนเทนต์มากยิ่งขึ้น
ข้อควรระวังเมื่อทำการตลาดสายมู
การทำตลาดเกี่ยวกับความเชื่อและศรัทธานั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้น แบรนด์ควรมีความเข้าใจในสิ่งที่ทำอย่างลึกซึ้ง และระมัดระวังไม่ให้สื่อสารที่อาจจะลบหลู่หรือกระทบความเชื่อของลูกค้า นอกจากนี้ แบรนด์ต้องคำนึงถึงทั้งกลุ่มเป้าหมายที่มีความเชื่อเรื่องสายมูและกลุ่มลูกค้าเดิมด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 67)
Tags: Media Talk, SCOOP, การตลาด, การตลาดสายมู, มูเตลู