ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นหลังจากตลาดทะยานขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดีซึ่งได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,063.36 จุด เพิ่มขึ้น 38.17 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,702.55 จุด ลดลง 11.09 จุด หรือ -0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,948.32 จุด ลดลง 65.66 จุด หรือ -0.36%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.62%, ดัชนี S&P500 บวก 1.36% และ ดัชนี Nasdaq บวก 1.49%
หลังจากทำสถิติพุ่งขึ้นรายวันมากที่สุดตั้งแต่กลางเดือนส.ค. ดัชนีหลักส่วนใหญ่ปรับตัวซบเซาเกือบตลอดทั้งวันศุกร์ แต่ยังคงสามารถปิดรายสัปดาห์ด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1%
ตลาดดีดตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ หลังจากการแสดงความเห็นของ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด ทำให้มีความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่งปรับลดไปเมื่อวันพุธ (18 ก.ย.)
อย่างไรก็ตาม มิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดอีกคนหนึ่งสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในสัปดาห์นี้
FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในเดือนพ.ย. และคาดว่า มีโอกาส 48.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 2.69% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นคอนสเตลเลชัน เอเนอร์จี (Constellation Energy) ซึ่งพุ่งขึ้น 22.29% หลังบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงด้านศูนย์ข้อมูลกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) เพื่อช่วยฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island ในรัฐเพนซิลเวเนีย
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นไนกี้ (Nike) ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้น 6.84% หลังจากประกาศว่า เอลเลียต ฮิลล์ อดีตผู้บริหารระดับสูงจะกลับมาทำงานที่บริษัทแทนที่ จอห์น โดนาโฮ ในตำแหน่งซีอีโอ
หุ้นอินเทล (Intel) ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ขึ้นด้วย โดยปิดพุ่งขึ้น 3.31% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัทควอลคอมม์ (Qualcomm) ได้เสนอเทกโอเวอร์กิจการอินเทล
หุ้นเฟดเอ็กซ์ (FedEx) ร่วง 15.23% หลังปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปี ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่ง ร่วงลง 3.53% ซึ่งเป็นการลดลงรายวันมากที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 67)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก