เบรกขึ้นราคา!! พาณิชย์ ขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาสินค้า รับมือปรับค่าแรง 400 บ.

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงทิศทางราคาสินค้าหากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาทว่า ในเรื่องของต้นทุนผลิตสินค้ามีหลายส่วนประกอบกัน ทั้งราคาพลังงาน การบริหารจัดการ และค่าแรงงาน ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงจะกระทบต่อต้นทุนมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องพิจารณาผลกระทบเป็นรายกลุ่ม เพราะกลุ่มสินค้าที่ใช้แรงงานมาก อาจได้รับผลกระทบมาก เช่น สิ่งทอ แต่บางกลุ่มที่ใช้เครื่องจักรมาก ใช้แรงงานน้อย ก็จะมีผลกระทบน้อย

อย่างไรก็ตาม ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการสินค้าทุกกลุ่ม ตรึงราคาขายไว้ให้นานที่สุด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะผู้ประกอบการก็ต้องการขายสินค้าในสถานการณ์เศรษฐกิจช่วงนี้ โดยไม่เน้นทำกำไรมากนัก

ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม กรมการค้าภายในได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกผัก ซึ่งมีบางส่วนได้รับความเสียหาย แต่ปัจจุบันยังมีผักสดจำหน่ายเพียงพอ โดยได้ประสานให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์แหล่งเพาะปลูกสำคัญ 10 แห่ง เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอนแก่น นครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบในช่วงสั้นๆ หากไม่มีฝนตกซ้ำ สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้นตามลำดับ

“กรมฯ ได้เน้นย้ำทุกพื้นที่ ดำเนินการตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ว่าสินค้าห้ามขาด ห้ามแพง พร้อมประสานไปยังตลาดกลาง เช่น ตลาดศรีเมือง ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดไท เพื่อเชื่อมโยงผักเข้าไปเสริมในพื้นที่ที่ปริมาณผักสดลดลง พร้อมกับเปิดจุดจำหน่ายเพิ่มเติมใน 11 จังหวัด 22 จุด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะช่วงใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งจากนี้จะติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง หากพื้นที่ไหนจำเป็น ก็พร้อมเชื่อมโยงผักเข้าไปเสริมทันที” อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าภายในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว ทำให้มีความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้าง และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเพิ่มสูงขึ้น จึงได้ประสานผู้ผลิตให้เตรียมจัดส่งสินค้าเพิ่มเติมเข้าไป ทั้งในรูปแบบการเปิดจุดจำหน่ายราคาพิเศษ และขอสนับสนุนเพื่อส่งต่อสินค้าไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อร่วมมือกับสถาบันอาชีวศึกษา ระดมความช่วยเหลือประชาชน ทำความสะอาด และซ่อมแซมสิ่งของช่วยประชาชน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top