สหรัฐฯเลื่อนพิจารณาข้อเสนอซื้อ”ยูเอส สตีล”หลังเลือกตั้ง เหตุเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังพิจารณาข้อเสนอซื้อกิจการยูเอส สตีล (U.S. Steel) มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) จะเปิดโอกาสให้บริษัทยื่นเอกสารขออนุมัติข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งเท่ากับว่าจะเป็นการชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการควบรวมกิจการที่เป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองออกไปจนกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเรียบร้อย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความหวังให้กับบริษัทอีกครั้ง หลังจากข้อเสนอที่ยื่นไปก่อนหน้านี้มีแนวโน้มจะถูกสกัดกั้น เมื่อคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) ออกมาคัดค้านเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากจะเป็นการคุกคามห่วงโซ่อุปทานเหล็กกล้าที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของสหรัฐฯ

แหล่งข่าวเผยว่า CFIUS ต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของข้อตกลงที่มีต่อความมั่งคงของชาติ และเพื่อหารือกับฝ่ายต่าง ๆ โดยการยื่นเอกสารรอบใหม่จะทำให้ทางคณะกรรมการมีระยะเวลาตรวจสอบข้อเสนอและตัดสินใจเพิ่มอีก 90 วัน

ทั้งนี้ นิปปอนสตีลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ยูเอสสตีลยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด

นิก ไคลน์ นักกฎหมายจากดีแอลเอ ไปเปอร์ กล่าวว่า “ระยะเวลาที่ยืดออกไปช่วยลดแรงกดดันให้กับฝ่ายต่าง ๆ และที่สำคัญคือ ทำให้การตัดสินใจดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปหลังการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.”

ข้อเสนอซื้อกิจการยูเอสสตีลจากบริษัทนิปปอนสตีลกลายเป็นประเด็นร้อน โดยก่อนหน้านี้รองปธน.คามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตปธน.จากพรรคเดโมแครตกล่าวในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า เธอต้องการให้ยูเอสสตีลยังคง “เป็นของสหรัฐฯ และดำเนินการโดยสหรัฐฯ ต่อไป”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top