ระเบิดรัสเซียถล่มอพาร์ตเมนต์ในคาร์คีฟ ดับ 1 เจ็บ 42

เกิดเหตุระเบิดนำวิถีของรัสเซียได้ถล่มอพาร์ตเมนต์ในวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ที่เมืองคาร์คีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ คร่าชีวิตผู้หญิงวัย 94 ปี 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 42 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 ราย ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่าการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่พันธมิตรชาติตะวันตกต้องจัดหาอาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศให้กับยูเครน รวมถึงอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนยูเครน

ทางด้านอัยการในแคว้นคาร์คีฟรายงานผ่านแอปเทเลแกรมว่า พบศพหญิงวัย 94 ปีบนชั้น 9 ของอาคารอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ขณะที่อีฮอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คีฟ กล่าวว่าเพลิงไหม้ที่เกิดจากระเบิดได้ดับลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ออแลห์ ซือแญฮูบอว์ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คีฟ ได้กล่าวว่าอาจมีผู้อยู่อาศัยติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

นอกจากการโจมตีอาคารอพาร์ตเมนต์แล้ว ปธน.เซเลนสกียังเปิดเผยในวิดีโอที่เขาออกอากาศทุกคืนว่า มีการโจมตีด้วยระเบิดนำวิถีอีก 3 ลูก ถล่มหมู่บ้านอื่น ๆ ในแคว้นคาร์คีฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้ชายแดนรัสเซียและตกเป็นเป้าโจมตีบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียยังไม่ได้ตอบกลับคำขอความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตึกอพาร์ตเมนต์ในทันที แต่รัสเซียเคยปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้มีเจตนาโจมตีพลเรือน แม้จะมีการสังหารพลเรือนไปแล้วหลายพันคนนับตั้งแต่บุกยูเครนในปี 2565 ก็ตาม

ปธน.เซเลนสกี เรียกร้องให้ชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี เร่งตัดสินใจอนุมัติการจัดส่งอาวุธโจมตีระยะไกลให้ยูเครน โดยระบุว่า “การทำลายกองกำลังทางอากาศของรัสเซียถึงในฐานทัพ เป็นการตัดสินใจที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล” พร้อมเน้นย้ำว่า “การโจมตีของรัสเซียทุกครั้ง การก่อการร้ายทุกครั้ง อย่างที่เกิดขึ้นในคาร์คีฟวันนี้ … ล้วนเป็นหลักฐานว่าเราต้องการขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกล และต้องมีให้เพียงพอด้วย”

อย่างไรก็ตาม ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เคยเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หากชาติตะวันตกอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ผลิตโดยชาติตะวันตกโจมตีดินแดนรัสเซีย ก็เท่ากับว่าชาติตะวันตกกำลังสู้รบกับรัสเซียโดยตรง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 67)

Tags:
Back to Top