นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยในระหว่างการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า กทม. มีความประสงค์จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เป็นค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สภา กทม. ได้ให้ความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมแล้ว ซึ่งตามหลักการ ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวนไม่เกิน 14,549,503,800 บาท เป็นรายจ่ายพิเศษจ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของ กทม. จึงขอความเห็นชอบจากสภากทม.
ด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า หากเราไม่สามารถพิจารณาเงินก้อนนี้ได้ภายใน 30 ก.ย.67 ซึ่งอยู่ในปีงบประมาณ 2567 จะทำให้ข้ามไปสู่ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการชำระหนี้ และอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น จึงต้องพยายามขอความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานคร สำหรับเงินก้อนนี้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้ได้ ส่วนเรื่องการจ่ายชำระหนี้ จะเป็นขั้นตอนต่อไป
โดยที่ประชุมสภา กทม. มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (ฉบับที่…) พ.ศ. … ก่อนรับหลักการ จำนวน 24 คน กำหนดเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อพิจารณาหลักการของร่างข้อบัญญัติดังกล่าว
อย่างไรก็ดี มี ส.ก.หลายคน ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงการชำระหนี้ของ กทม.ให้กับ BTS เช่น
นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด กทม. ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน แต่ผู้ที่ได้บริหารเดินรถกลับได้กำไรอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมกทม. ต้องจ่ายในราคาสูงตามที่ฟ้องขนาดนี้ และในส่วนของ BTS ที่ทวงหนี้ กทม. ผ่านสื่อแบบนี้ ตามกฎหมายแล้วเป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ ตลอดจนการทำสัญญาที่ผิดปกติหรือไม่ จึงอยากให้คณะผู้บริหารไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนแทนประชาชนด้วย
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับรายละเอียดการชำระหนี้ดังกล่าว ทั้งเรื่องของดอกเบี้ยต่อปี จำนวนที่ต้องชำระทั้งหมด และการคำนวณดอกเบี้ยต่อวันนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่อย่างไร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 67)
Tags: BTS, กทม., กรุงเทพมหานคร, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, รถไฟฟ้าสายสีเขียว, สภากทม.