นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ยหลังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ประกาศผลักดันนโยบายรถไฟฟ้าไม่เกิน 20 บาทตลอดสายให้ครบทุกสายภายในเดือน ก.ย.68 หลังจากนำร่องกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง และ MRT สายสีม่วง ตั้งแต่เดือน ต.ค.66 ทำให้ทั้ง 2 สาย มีผู้โดยสารรวมเพิ่มขึ้นถึง 26.39% และจากแผนที่คาดว่ารายได้จะกลับมาเท่าก่อนใช้มาตรการในเดือน พ.ค. 69 (ภายในระยะ 2 ปี 7 เดือนหลังจากเริ่มนโยบาย) หากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะทำให้รายได้กลับมาเท่าเดิมเร็วขึ้นภายในปี 68
รถไฟฟ้าสีอื่น ๆ ที่จะผลักดันนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ต้องดำเนินการเรื่องกฎหมาย 2 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง เป็นกฎหมายที่สามารถกำหนดให้ผู้ประกอบการทุกรายเข้าร่วมโครงการ ส่วนร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม จะมีการตั้งกองทุนฯ เพื่ออุดหนุนและชดเชยรายได้
สำหรับแหล่งเงินกองทุน จะมาจากทั้งงบประมาณ และขอสนับสนุนเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แต่ร่างพ.ร.บ. ยังมีขั้นตอนต้องดำเนินการในเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด จึงให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามและประสานในทุกขั้นตอน เพราะหลังครม.เห็นชอบ ต้องเสนอผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ก่อนจะทูลเกล้าฯ
นายสุริยะ ยังกล่าวยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการ Landbridge ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของรัฐบาล โดยภาครัฐรับผิดชอบค่าเวนคืน ส่วนเอกชนเป็นผู้ลงทุน ซึ่งหากขาดทุนก็เป็นความเสี่ยงของเอกชน จากการโรดโชว์พบว่าเอกชนหลายรายให้ความสนใจโครงการนี้ จึงเชื่อว่าเมื่อ พ.ร.บ. SEC ได้รับความเห็นชอบ และเปิดประมูล จะมีเอกชนจะเข้าประมูลหลายรายแน่นอน ซึ่งผู้เสนอผลตอบแทนรัฐสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ และเชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับผลตอบแทนที่ดี
ล่าสุดอยู่ในช่วงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลต่าง ๆ เบื้องต้นคาด พ.ร.บ. SEC จะเริ่มประกาศใช้ในช่วงปี 2568 และจะดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 1 ภายในปลายปี 2573 ต่อไป
เร่งก่อสร้างถนนพระราม 2 ปิดตำนาน”ถนน 7 ชั่วโครตร”
นายสุริยะ กล่าวอีกว่าจะเร่งรัดก่อสร้างบนถนนพระราม 2 อย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดตำนาน “ถนน 7 ชั่วโคตร” โดยขณะนี้ได้แก้ไขอุปสรรคทั้งหมดให้สำเร็จลุล่วงตามแผนงานที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน จากเดิมที่งานล่าช้าเพราะผู้รับเหมาทำงานได้เฉพาะเวลากลางคืน ประกอบกับมีปัญหาขาดสภาพคล่องจากผลกระทบโควิด-19 ล่าสุด ครม. เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 67 ได้อนุมัติงบกลาง วงเงิน 600.35 ล้านบาท จ่ายเงินชดเชย ค่า K ให้บริษัทรับเหมาที่ทำงานบนถนนพระราม 2 ขณะนี้มั่นใจว่า เวลาที่เหลือ จะทำได้ตามเป้าหมาย โดยอีกไม่เกิน 6 เดือนจะลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า
“ถนนพระราม 2 ในส่วนของพื้นราบจะต้องเสร็จทั้งหมดภายใน ธ.ค. 67 เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงปีใหม่ 68 ส่วนทางยกระดับ (M82) สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว จะเสร็จมิ.ย. 68 สามารถเปิดทดลองวิ่งได้ ส่วนทางด่วนสายพระราม 3 -ดาวคะนอง-ถ.วงแหวนรอบนอกฯ ล่าสุดคืบหน้า 81% เปิดวิ่งตลอดสาย มิ.ย. 68”
วางเป้า M6 ช่วงหินกอง-สระบุรี เปิดใช้ปีใหม่ 68
นายสุริยะ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาได้เร่งรัดงานก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ที่มีปัญหาสะสมให้แล้วเสร็จ จนสามารถกำหนดการให้บริการประชาชนเพิ่มเติมช่วงหินกอง-สระบุรี ได้ในช่วงปีใหม่ 68 และเปิดตลอดสายเต็มรูปแบบ ปีใหม่ 69 เร่งรัดโครงการมอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เปิดตลอดสายภายในปี 68 รวมถึงในส่วนการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้มอบกรมทางหลวง (ทล.) เร่งรัดการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้ทันภายในปี 68 เป็นต้น
สำหรับโครงการก่อสร้างที่มีปัญหาล่าช้า เช่น รถไฟความเร็วสูงไทย -จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ –นครราชสีมา ได้กำชับไม่ให้ขยายสัญญาก่อสร้างออกไปอีก ซึ่งงาน 14 สัญญานั้น ให้ลงนามและเริ่มงานก่อสร้างทั้งหมดภายในปี 2567 รวมถึงเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งเจรจาแก้ปัญหา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) โดยเร็ว คาดว่า EEC จะเสนอ ครม. เร็วๆนี้
เล็งชง ครม.ลุย 10 โปรเจ็คต์ใหญ่
นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนลงทุนโครงการจำนวนมาก เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งมีการใช้งบประมาณ และเงินกู้ ซึ่งอาจจะกระทบเพดานหนี้สาธารณะได้ ทั้งนี้ ตนได้เคยรวบรวมการลงทุนของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงอื่นๆ มาพิจารณาพบว่า ยังอยู่ในเพดานเงินกู้ 70% ซึ่งในการใช้จ่ายเช่น รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เมื่อมีการลงนามและเริ่มก่อสร้าง จะแบ่งการจ่ายเงินรายปี ไม่ได้จ่ายทีเดียวพร้อมกัน ดังนั้น จึงไม่กระทบต่อเพดานเงินกู้แต่อย่างใด
สำหรับโครงการเร่งด่วน ที่พร้อมเสนอ ครม.ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง ซึ่งได้ส่งเรื่องให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) พิจารณาแล้ว ,มอเตอร์เวย์ M9 ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ,มอเตอร์เวย์ M5 ต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ สายรังสิต-บางปะอิน ,รถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และรถไฟความเร็วสูง ไทย – จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย
นอกจากนี้ จะเดินหน้า มอเตอร์เวย์ M8 สายนครปฐม – ปากท่อ – ชะอำ ศึกษาปรับปรุงการออกแบบโช่วงนครปฐม – ปากท่อ ให้สามารถนำเสนอครม.อนุมัติและเริ่มก่อสร้างในปี 2568 รวมถึงปรับปรุงแบบ และแก้ไขปัญหาช่วงปากท่อ – ชะอำเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2569
แผนระยะกลาง จะเป็นการนลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) เพิ่ม Capacity จาก 60 ล้านคนต่อปี เป็น 80 ล้านคนต่อปี เริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 ,พัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 เพิ่ม Capacity จาก 30 ล้านคนต่อปีเป็น 40 ล้านคนต่อปี เริ่มก่อสร้างต้นปี 69 ,พัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 เพิ่ม Capacity จาก 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี เริ่มก่อสร้างในปี 69 ,พัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 เพิ่ม Capacity จาก 8 ล้านคนต่อปี เป็น 20 ล้านคนต่อปี เริ่มก่อสร้างปี 69 และพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 เพิ่ม Capacity จาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปีเริ่มก่อสร้างปี 69
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 67)
Tags: ครม., สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า, แลนด์บริดจ์