นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.90 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.94 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค และตลาดโลก แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา โดยตลาดรอฟังการดีเบตของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างนางคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่ชิงจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งจะตรงกับเวลาในไทยวันพุธที่ 11 ก.ย.
ส่วนปัจจัยในประเทศช่วงนี้ ต้องรอดูความต่อเนื่องของกระแสเงินทุนต่างประเทศ (Flow) ที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น
“บาทเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ทิศทางบาทช่วงนี้ยังคงผันผวน” นักบริหารเงินฯ กล่าว
นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.80 – 34.00 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.26 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 143.47/48 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1030 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1056/1058 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 33.830 บาท/ดอลลาร์
- ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ด้วยคะแนน 174 ต่อ 3 งดออกเสียง 7 และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของกรรมาธิการฯ ที่จะส่งไปยัง ครม.พิจารณาต่อไป
- รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วจะเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ก่อนจะจ่ายเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุดภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (9 ก.ย.) หลังจากผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า จากเดิมที่เคยคาดว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50%
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อ่อนค่าลง 0.0147 หยวน แตะที่ 7.1136 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 17-18 ก.ย.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% หลังจากทรงตัวในเดือนมิ.ย.
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 3/2567 เฟดสาขาแอตแลนตา จะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งต่อไปในวันที่ 17 ก.ย.
- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากเวสต์แพค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนส.ค.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB), จีนเปิดเผยยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือน ส.ค., เยอรมนีเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค. และสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 67)
