โบอิ้ง (Boeing) เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ย.) ว่า บริษัทบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับสหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนพนักงานกว่า 32,000 คนในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐฯ นับเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่อาจช่วยให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงการนัดหยุดงานประท้วงของกลุ่มพนักงานได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 4 ปี ครอบคลุมการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 25% สวัสดิการเกษียณอายุที่ดีขึ้น และคำมั่นว่าโบอิ้งจะสร้างเครื่องบินพาณิชย์ลำต่อไปในพื้นที่ของเมืองซีแอตเทิล
หากได้รับการอนุมัติในขั้นสุดท้าย ข้อตกลงนี้จะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของเคลลี ออร์ตเบิร์ก ซีอีโอคนใหม่ของโบอิ้งซึ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้วพร้อมกับภาระหน้าที่ในการปรับปรุงคุณภาพของโบอิ้ง เนื่องจากนักวิเคราะห์มองว่า การบรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานอาจช่วยโบอิ้งแก้ไขปัญหาใหญ่ที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ได้ โดยข้อตกลงดังกล่าวซึ่งเป็นการทำข้อตกลงเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 16 ปี จะรวมถึงการเปิดโอกาสให้สหภาพแรงงานมีส่วนร่วมมากขึ้นในงานด้านความปลอดภัยและคุณภาพของระบบการผลิต
ด้านสหภาพแรงงานระบุว่า สัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาที่ดีที่สุดที่เคยเจรจากันมา และยืนยันว่า พนักงานของสหภาพแรงงานมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเครื่องบินที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้ โบอิ้งกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านคุณภาพ และต้องเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มงวดทั้งจากหน่วยงานกำกับดูแลและลูกค้า หลังจากเกิดเหตุการณ์แผงประตูเครื่องบิน MAX ของสายการบินอลาสกาแอร์ไลน์หลุดออกกลางอากาศเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า สมาคมช่างเครื่องและแรงงานการบินระหว่างประเทศ (IAM) ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานโบอิ้งประจำโรงงานในพื้นที่ซีแอตเทิล และพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน จะต้องอนุมัติข้อตกลงในวันพฤหัสบดีนี้ (12 ก.ย.) ซึ่งหากข้อตกลงไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่สองในสาม ก็อาจนำไปสู่การผละงานประท้วงในที่สุด แต่หากได้รับการอนุมัติ ก็จะเป็นการเปิดทางให้โบอิ้งสามารถเดินหน้าสร้างเครื่องบินที่จะมาทดแทนรุ่น 737 ที่โรงงานในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐฯ แม้ยังไม่ชัดเจนว่าโบอิ้งจะประกาศเปิดตัวเครื่องบินรุ่นต่อไปเมื่อใดก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 67)
Tags: Boeing, สหภาพแรงงาน, สหรัฐ, เครื่องบิน, โบอิ้ง