ก.ล.ต.ปิด CoinEx ส่ง ปอศ.ฟันผิดแพลตฟอร์ม-Partner เปิดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต

ก.ล.ต. กล่าวโทษแพลตฟอร์ม CoinEx (CoinEx) และนายพุฒิพงศ์ หนิเจริญ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในความผิดกรณี CoinEx และนายพุฒิพงศ์ร่วมกันกระทำการอันเข้าข่ายการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพบว่า CoinEx ได้ให้บริการจัดระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเก็บค่าธรรมเนียม และมีการชักชวนและประชาสัมพันธ์ให้มาใช้บริการของ CoinEx ในประเทศไทย ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นภาษาไทย ได้แก่ Facebook Twitter (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น X) Medium และ Telegram

และพบว่า นายพุฒิพงศ์ได้แสดงตนว่าเป็น Partner of CoinEx Thailand โดยเป็นผู้ดูแลบูธ CoinEx ในงาน Thailand Crypto Expo 2022 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และขึ้นบรรยายบนเวทีเพื่อชักชวนประชาชนมาใช้บริการของ CoinEx นอกจากนี้ นายพุฒิพงศ์ยังเป็นผู้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (email) ในฐานะ Partner of CoinEx Thailand เพื่อสอบถาม ก.ล.ต. เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับ CoinEx รวมทั้งนายพุฒิพงศ์ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องสนทนาใน Telegram ชื่อ “CoinEx Official Thailand เพื่อทำให้การซื้อขาย Crypto ง่ายขึ้น” โดยมีการส่งข้อความในลักษณะประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการขายอันทำให้ CoinEx เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากบุคคลไปใช้บริการมากขึ้น

การกระทำของ CoinEx และนายพุฒิพงศ์ เข้าข่ายร่วมกันประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ซึ่ง CoinEx ดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 26 อันมีความผิดและระวางโทษตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ CoinEx และนายพุฒิพงศ์ ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อไป และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว

รวมทั้งประสานความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) พิจารณาดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์ม CoinEx ในประเทศไทย ตามกระบวนการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งนี้ การปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์มผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ถือเป็นดุลยพินิจของกระทรวง DE และศาล โดยระยะเวลาดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ขอเตือนประชาชนและผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และยังมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง (scam) รวมถึงความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และแอปพลิเคชัน SEC Check First และสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ได้ที่ investor alert ลิงก์ https://market.sec.or.th/public/idisc/th/InvestorAlert

ทั้งนี้ หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแส” โทร. 1207 หรือผ่านช่องทาง Facebook page “สำนักงาน กลต.” หรือ Sec Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 67)

Tags:
Back to Top