ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (5 ก.ย.) โดยตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงท่ามกลางความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากค่าจ้างในญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ค.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,376.86 จุด ลดลง 80.48 จุด หรือ -0.46%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,785.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด หรือ +0.04% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ 36,917.44 จุด ลดลง 130.17 จุด หรือ -0.35%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลงเล็กน้อย และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.18%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง หลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ค่าจ้างที่แท้จริงในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 2 หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเปิดทางให้ BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น
ฮาจิเมะ ทากาตะ หนึ่งในกรรมการบริหารของ BOJ กล่าวว่า BOJ จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากมีข้อมูลยืนยันว่าบริษัทต่าง ๆ ยังคงเพิ่มการใช้จ่ายและปรับขึ้นค่าจ้าง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่ายอดเกินดุลการค้าของออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่การนำเข้าชะลอตัวลง
ข้อมูลของ ABS ระบุว่ายอดเกินดุลการค้าของออสเตรเลียในเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (4.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 5.43 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.0 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ยอดส่งออกในเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% จากระดับของเดือนมิ.ย. เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ได้ช่วยชดเชยการชะลอตัวของยอดส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.ค.ลดลง 0.8% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชะลอตัวของยอดนำเข้าน้ำมัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย