แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า การที่ตำรวจไทยได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีสารระคายเคืองและสีย้อมกับผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ ถือเป็นการคุกคามอย่างร้ายแรงต่อเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ เนื่องจากเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีสารระคายเคืองและสีย้อม มีความเสี่ยงร้ายแรงต่อการบาดเจ็บ โดยการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงควรที่จะใช้ต่อเมื่อไม่สามารถควบคุมระดับความรุนแรงได้เท่านั้น
การใช้สีย้อม หมายความว่าผู้คนจำนวนมาก รวมทั้งผู้ชุมนุมโดยสงบ นักข่าว และผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ อาจถูกสีทั้งหมด การกระทำนี้ทำให้ผู้คนตกอยู่ในความเสี่ยงหลังจากการจบการชุมนุม ตำรวจไทยต้องใช้ความอดทนอดกลั้น
รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ฯ กล่าวว่า การใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อสลายการชุมนุมโดยสงบเมื่อคืนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และไม่สอดคล้องอย่างสิ้นเชิงกับหลักการตามกฎหมายที่ได้รับการยอมรับ ตามหลักการความจำเป็น และหลักการที่ได้สัดส่วนอย่างที่ทางการไทยอ้าง
“การใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่ผสมสารระคายเคืองและสีย้อม ไม่เพียงอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ การใช้สีผสมในน้ำยังเป็นการกระทำที่ไม่เลือกเป้าหมาย และอาจนำไปสู่การพุ่งเป้าเพื่อจับกุมโดยพลการต่อผู้ชุมนุมโดยสงบ ผู้สื่อข่าว และผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ ซึ่งอาจถูกน้ำฉีดใส่จนเปื้อนสี”
ในการควบคุมการชุมนุม ทางการไทยควรเคารพ คุ้มครองและประกันการใช้สิทธิมนุษยชนของผู้จัดการชุมนุมและผู้เข้าร่วม รวมทั้งยังต้องประกันความมั่นคงปลอดภัยของผู้สื่อข่าว ผู้สังเกตการณ์การชุมนุม และประชาชนทั่วไปที่ร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมด้วย
แอมเนสตี้ฯ ขอเรียกร้องทางการไทยให้ปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศของตน และอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ ทางการไทยต้องอนุญาตให้ผู้ชุมนุมโดยสงบสามารถแสดงความคิดเห็นของตน โดยต้องไม่ทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากกว่านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 63)
Tags: การเมือง, ชุมนุม, สลายการชุมนุม, สิทธิมนุษยชน, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล