สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในวันพุธ (4 ก.ย.) ว่า ทำเนียบขาวเตรียมประกาศว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะคัดค้านข้อตกลงการซื้อกิจการมูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ ระหว่างผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างนิปปอน สตีล (Nippon Steel) กับบริษัทยูเอส สตีล (U.S. Steel) ของสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ขณะที่พรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายของสหรัฐฯ ก็คัดค้านด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ยูเอส สตีล ได้ออกมาเตือนว่า หากไม่บรรลุข้อตกลงกับนิปปอน สตีล จะทำให้พนักงานสหภาพแรงงานของสหรัฐฯ หลายพันคนเสี่ยงตกงาน และยังส่งสัญญาณปิดโรงงานเหล็กบางแห่งและอาจย้ายสำนักงานใหญ่ออกจากรัฐเพนซิลเวเนียด้วย
แหล่งข่าวระบุกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจมีการประกาศออกมาอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แผนการของนิปปอน สตีล ในการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล เผชิญกับเสียงคัดค้านจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน โดยรองปธน.คามาลา แฮร์ริส ต้องการให้ยูเอส สตีล “ยังคงเป็นของสหรัฐฯ และดำเนินงานโดยสหรัฐฯ ต่อไป” ขณะที่คู่แข่งอย่างอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ให้คำมั่นว่าจะคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวหากชนะการเลือกตั้ง
นิปปอน สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก และยูเอส สตีล ผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 24 ของโลก ได้ประกาศข้อตกลงการซื้อกิจการเมื่อเดือนธ.ค. 2566 โดยยูเอส สตีล และกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทได้สนับสนุนการเทกโอเวอร์กิจการ โดยมองว่าจะทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันระดับโลกมากขึ้น ขึ้นแท่นบริษัทผลิตเหล็กที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเมื่อพิจารณาในแง่ปริมาณ
อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานยูไนเต็ด สตีลเวิร์กเกอร์ส (United Steelworkers) ได้ออกมาคัดค้านการทำข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 67)
Tags: นิปปอน สตีล, ผู้ผลิตเหล็ก, ยูเอส สตีล, โจ ไบเดน