นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ อิงแดนบวกได้เล็กน้อย แม้ตลาดหุ้นในต่างประเทศยังดูไม่ค่อยดี จากนักลงทุนกังวลตัวเลขการเปิดรับสมัครงานของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง ทำระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.64 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุน ยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่อเนื่อง โดยคืนนี้จะมีการเปิดเผย ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP เป็นต้น เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เนื่องจากหากตลาดแรงงานยังดูอ่อนแอ อาจทำให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยมากกว่าเดิม ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวได้
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่ำกว่า 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำระดับต่ำสุดของปีนี้ คาดกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทย ถือว่าแข็งแกร่งกว่าต่างประเทศ เนื่องจากมีปัจจัยหนุนภายในประเทศ ซึ่งล่าสุดในหลวงโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว และคาดว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีชุดใหม่ จะถวายสัตย์ปฏิญาณตน ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.67 และประชุม ครม.ในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ สำหรับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 11 หรือ 12 ก.ย.นี้ และคาดว่าในวันที่ 16 ก.ย. นายกรัฐมนตรี จะเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาลครั้งแรก ทำให้นักลงทุนคาดหวังต่อมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีออกมา
ให้แนวรับที่ 1,355-1,350 จุด และแนวต้านที่ 1,370-1,375 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (4 ก.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,974.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.04 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,520.07 จุด ลดลง 8.86 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,084.30 จุด ลดลง 52.00 จุด หรือ -0.30%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,469.96 จุด เพิ่มขึ้น 12.62 จุด หรือ +0.07%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,785.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.98 จุด หรือ +0.04% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 36,536.25 จุด ลดลง 511.36 จุด หรือ -1.38%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ย.) 1,365.49 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด (+0.07%) มูลค่าซื้อขาย 39,035.36 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (4 ก.ย.) 594.97 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. (4 ก.ย.) ลดลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 69.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ย.) อยู่ที่ -0.31 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.99 แข็งค่าจากวานนี้ รับดอลลาร์อ่อนค่าหลังตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ต่ำคาด
– ภาคเอกชน ชี้ภารกิจเร่งด่วนรัฐบาลใหม่ “ฟื้นความเชื่อมั่น-แจกเงินดิจิทัล” อัดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ หวังรองนายกฯเศรษฐกิจมีอำนาจต่อรอง กกร.เตรียมส่งสมุดปกขาวก.ย.นี้ ห่วงปัญหาน้ำท่วมซ้ำเติมเศรษฐกิจ “โบรก” ประสานเสียงหุ้นไทยขานรับ ครม.ชุดใหม่ “จัดตั้งเร็ว-ทีมเศรษฐกิจหน้าเดิม” สานต่อนโยบายจับตาแถลงนโยบายสัปดาห์หน้า ลุ้นดันดัชนีแตะ 1,400 จุด
– ครม.แพทองธาร ถวายสัตย์ 6 ก.ย.นี้ พร้อมแถลงนโยบาย 11 ก.ย.นี้ เผยร่างนโยบายระยะเร่งด่วนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต ยกระดับราคาสินค้าเกษตร พร้อมตุนงบกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว 3 แสนล้าน หน่วยงานเศรษฐกิจเตรียมเสนอแผนปรับงบเพื่อใช้ลงทุนโครงการชุมชนฟื้นเศรษฐกิจฐานราก หวังสร้างแรงส่งทางเศรษฐกิจมากขึ้น
– “จุลพันธ์” แย้ม ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 1 เล็งใช้โครงสร้างใหม่ เปลี่ยนรูปแบบจ่ายเป็นเงินสด ชี้ป้องนักร้อง เพื่อให้รัฐบาล “อิ๊งค์” ปลอดภัย อุบรอฟังตอนแถลงนโยบายกลาง ก.ย. “ธีระชัย” อภิปรายนอกสภาฯ เรื่องข้อดีข้อเสียดิจิทัลวอลเล็ต เป็นห่วงและเตือนว่า เงินดิจิทัลที่ออกโดยบริษัทเอกชน ตามคำสั่งกระทรวงการคลัง อาจทำลายความเชื่อถือในเงินปกติที่ออกโดยแบงก์ชาติ
– นโยบาย ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ของรัฐบาลเพื่อไทย ยังคงต้องเดินหน้าต่อ ล่าสุด “พิพัฒน์” รมว.แรงงาน ยืนยันบอร์ดค่าจ้าง เคาะอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่เริ่มบังคับใช้ 1 ต.ค. รอรัฐบาลใหม่ประกาศรายละเอียด แจงปิดกิจการอื้อๆ ไม่เกี่ยวกับขึ้นค่าจ้าง แต่เกิดจากหลายสาเหตุ
หุ้นเด่นวันนี้
– COM7 (กสิกรไทย) แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 25.10 บาท อยู่ในสถานะที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากกระแสความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่รองรับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวของ iPhone 16 ในวันที่ 9 กันยายน 2567 รุ่นใหม่นี้คาดว่าจะมาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่จะดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีแล็ปท็อปรุ่นล่าสุดที่รองรับ AI ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปลายปี 2567 อีกด้วย ความต้องการสินค้าเทคโนโลยีที่ผนวก AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ COM7 มีโอกาสในการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายได้ในอนาคต ด้วยเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Apple บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
– CPALL (พาย) ซื้อ ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท) รายงานกำไรงวด 2Q24 ที่ 6.2 พันล้านบาท (+41%YoY) หลังหักรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 6.1 พันล้านบาท (+37%YoY,+2%QoQ) หนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่เติบโต 3.8%YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Makro +1.8% และ Lotus’s +3.5%) ขณะที่เราคาดว่าแบวโน้มกำไร 2H24 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว
– BJC (ฟินันเซียฯ) แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 26.50 บาท โมเมนต้มกำไร 3Q24 คาดซะลอ q-q จาก Low Season ของธุรกิจ แต่คาดเติบโดได้ y-y โดยล่าสุด SSSG ของ BigC เดือน ส.ค. เริ่มพลิกมาเป็นบวกได้ราว 2% ขณะที่ Margin คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าไฟที่ลง รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน Consensus คาดกำไรปี 2024-25 ที่ 4.3 พันล้านบาท -10% y-y และ 5.2 พันล้านบาท +20% y-y เราคาด BJC เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแจกเงิน 1 หมื่นบาทในเดือน ก.ย.- 4Q24 ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2025PER ต่ำที่สุดในกลุ่ม Consumer Staple ที่ราว 17 เท่า และยังต่ำกว่า Book Value ที่ราว 30 บาท และให้ Dividend Yield ราว 3.5-4% ต่อปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, หุ้นไทย