เอกชนเรียกร้องรัฐบาลทุ่มส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศควบคู่ปกป้อง SME ในประเทศ

นายณัฐพรรษ ตันบุญเอก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวในงาน Thailand Focus 2024: Adapting to a Changing World หัวข้อ “Game-Changing Opportunities in Thailand: The Rise of New Industries and Investment Relocations” ว่า รัฐบาลควรส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI)

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต่างชาติมาเช่าที่ในนิคมของ WHA เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด มีอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่มาลงทุน เช่น การผลิตรถไฟฟ้า (EV) ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และบริษัทกำลังพยายามให้ดึงผู้ลงทุนมาผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศไทยด้วย ขณะที่ผู้ลงทุนจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ลงทุนญี่ปุ่นยังลงทุนสะสมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีผู้ลงทุนทั้งจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา

การลงทุนด้านการผลิตรถ EV ช่วงแรกผู้ลงทุนจีนนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์มาประกอบเป็นหลัก แต่ปีหน้าจะมีการผลิตรถ EV ในโรงงานในประเทศไทยมากขึ้น

นายสมิทธ์ พนมยงค์ Executive Officer บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กล่าวถึงประเด็นการดึงดูดผู้ลงทุนต่างชาติว่า ต้องการเห็นความต่อเนื่องและมั่นคงของนโยบายรัฐบาล และทัศนคติที่ถูกต้องของประชาชน ทั้งนี้ปัจจุบันมีการพูดกันมากในเรื่องความเท่าเทียมกันในสังคม ทั้งเรื่องความเท่าเทียมกันในด้านโอกาสนั้น ขณะเดียวกันก็ยังต้องมีบริษัทใหญ่ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กในประเทศได้ด้วย

นายสมิทธ์ เห็นด้วยกับการมีมาตรการคุ้มครองบริษัทขนาดเล็กและกลาง SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกของจีนเข้ามาตีตลาด โดยไม่ใช้เฉพาะการขึ้นภาษีกับสินค้าจีน แต่ต้องดูด้านคุณภาพสินค้า และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้การลงทุนของผู้ลงทุนจีนในการผลิตรถ EV ต้องใช้ชิ้นส่วนในประเทศด้วย

ขณะที่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศจากที่ไทยนำเข้าบริการดิจิทัลมาก เช่น การที่คนไทยใช้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติเพื่อซื้อสินค้า หรือการบริโภคบริการบันเทิงผ่านแพลตฟอร์มของต่างชาติ GULF ได้ลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมแสดงความมมั่นใจว่า GULF สามารถผลิตพลังงานสะอาดสนองความต้องการของธุรกิจในไทย

นางสาวศุธาศินี สมิตร รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวถึงปัจจัยสำคัญของการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศว่า ไทยต้องสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงเพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น แรงงานมีทักษะด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลส่งเสริมการตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในไทยก็มีส่วนช่วยดึงดูดการลงทุน และการที่รัฐบาลใหม่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการการเงิน (Financial Hub) ก็จะมีส่วนช่วยดึงดูดการลงทุนมากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top