นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 สามารถทำรายได้รวม 2,884 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 593 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) ถึง 64% และ 131% ตามลำดับ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 67 สร้างสถิติใหม่ มีรายได้รวมน 4,642 ล้านบาท เติบโต 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 849 ล้านบาท เติบโตถึง 93% ถือเป็นรายได้และกำไรสุทธิงวดครึ่งแรกของปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (New High)
เนื่องจากในช่วง 6 เดือนแรก บริษัทสามารถโอนโครงการสร้างเสร็จใหม่ได้ตามแผนที่ตั้งไว้ และรับรู้รายได้ผ่านโครงการสร้างเสร็จใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่เป็นไฮไลท์ของการโอนในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) โครงการแคมปัสคอนโด ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันทำยอดขายได้แล้วถึง 99% และโครงการเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1 (The Title HALO 1) โครงการ Leisure Condominium ใกล้สนามบินภูเก็ต จำนวน 329 ยูนิต มูลค่า 1,537 ล้านบาท มียอดขายแล้วกว่า 93% โดยทั้ง 2 โครงการจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง และเป็นแรงหนุนสำคัญในไตรมาส 3/2567 เช่นกัน
ในส่วนของยอดขายพรีเซล บริษัทยังสามารถกวาดยอดขายในครึ่งปีแรกไปได้ถึง 10,730 ล้านบาท เติบโต 35% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเปิดตัวโครงการ Leisure Condominium ในทำเลภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของ บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) บริษัทย่อย จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท คือ โครงการเดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา (The Title Heritage Bang-Tao) จำนวน 789 ยูนิต และโครงการเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง (The Title Serenity Nai-Yang) จำนวน 814 ยูนิต ที่ได้รับกระแสตอบรับดีและมียอดขายเป็นที่น่าพึงพอใจ
ล่าสุด ทริสเรทติ้งได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตอันดับความน่าเชื่อถือของแอสเซทไวส์จาก “BBB-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ “BBB-” แนวโน้ม “เป็นบวก” (Positive) จากภาพรวมที่แข็งแกร่งของบริษัท และผลการดำเนินงานที่รักษาระดับการเติบโตได้อย่างมั่นคง ทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ทั้งสิ้นประมาณ 23,678 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้ไปได้ถึงปี 2569
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 แอสเซทไวส์ยังคงเดินหน้าตามแผน The New Frontiers มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติ ด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมและแนวราบใหม่ ในกรุงเทพฯ EEC และภูเก็ตจำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,760 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3/67 บริษัทได้เปิดการขายโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล (The Arbor Ramintra-Watcharapol) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่สไตล์ครีเอทีฟโมเดิร์นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) เริ่มต้น 8.99 ล้านบาท และโครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี (CHANN The Riverside Boromratchachonnani) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวทำเลริมแม่น้ำท่าจีน ราคาเริ่มต้น 15-30 ล้านบาท ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า
รวมถึงเตรียมเปิดตัวโครงการเรือธง (Flagship project) อย่างโครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) โครงการคอนโดมิเนียมหรู ใกล้หาดจอมเทียน มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ขณะเดียวกัน ASW ยังแสวงหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ด้วยการขยายธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ คือ ธุรกิจ Health & Wellness เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าหมายเปิด “ร็อคเก็ตฟิตเนส” (Rocket Fitness) ฟิตเนสทางเลือกใหม่ในทำเลเข้าถึงง่าย และ “ไวทาลา” (Vitala) คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย รวม 4 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเปิดให้บริการในคอมมูนิตี้มอลล์ “มิงเกิ้ล” (Mingle) และโครงการของบริษัทเพื่อให้เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจรีเทลและคอมมูนิตี้มอลล์
“ปีนี้เป็นปีที่ ASW มองเห็นสัญญาณการเติบโตที่โดดเด่น ทั้งด้านยอดขาย รายได้ และกำไร เราจึงเชื่อมั่นว่าแผน The New Frontiers จะช่วยให้เรายังยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ และสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายรายได้ 8,700 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน”
นายกรมเชษฐ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ส.ค. 67)
Tags: ASW, กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์, แอสเซทไวส์