โฆษกคณะทหารเมียนมากล่าวเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ว่า รัฐบาลทหารของเมียนมาสูญเสียการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในฐานทัพสำคัญแห่งหนึ่งในรัฐฉาน และเสริมว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนอาจถูกกลุ่มกบฏชนกลุ่มน้อยจับตัวไป โดยยอมรับว่าการสู้รบอย่างดุเดือดกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านนั้นเริ่มจะถอยหลัง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โฆษกคณะทหารเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าวในรูปแบบเสียงผ่านทางแอปเทเลแกรม หลังจากกลุ่มกบฏชาวเผ่าโกกังซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ที่ชายแดนเมียนมา-จีนได้อ้างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 ส.ค.) ว่า ตนได้ยึดกองบัญชาการทหารระดับภูมิภาคของกองทัพในเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งเป็นเมืองหลักของรัฐฉาน ได้ทั้งหมดแล้ว
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวในสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ว่า กองกำลังความมั่นคงได้ถอนกำลังออกจากรัฐฉานแล้ว แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว และเน้นย้ำว่ากองทัพจะ “ยังคงพยายามรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ” ไม่เพียงแต่ในรัฐฉานเท่านั้น แต่รวมถึงทั่วทั้งเมียนมาด้วย
กลุ่มกบฏที่ชื่อว่ากองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army) เป็น 1 ใน 3 กลุ่มกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยที่ร่วมกันเปิดฉากโจมตีในเดือนต.ค. 2566 ในพื้นที่ภาคเหนือของเมียนมา โดยถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดต่อกองทัพนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ที่ได้ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนางอองซาน ซูจี ออกไป
ด้านกองกำลังป้องกันประชาชน (People’s Defense Force) ซึ่งสนับสนุนประชาธิปไตย ก็ร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อย 3 กลุ่มในการต่อต้านกองทัพด้วย โดยกองกำลังป้องกันประชาชนเป็นกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติคู่ขนานที่จัดตั้งขึ้นโดยสมาชิกพรรคการเมืองของนางซูจีหลังการรัฐประหาร
ทั้งนี้ กองบัญชาการทหารระดับภูมิภาคในเมืองล่าเสี้ยว ถือเป็นฐานทัพที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มากที่สุดจากกองบัญชาการทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 67)
Tags: กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ, กองทัพเมียนมา, มิน อ่อง หล่าย, เมียนมา