โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง แผนการของเขาที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 60% จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
โอกาสที่นายทรัมป์จะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐมีสูงขึ้น หลังจากที่เขารอดพ้นจากการถูกลอบสังหารในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ก.ค.) และจากนั้นสองวันต่อมา นายทรัมป์ได้ตัดสินในเลือกนายเจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ ให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
นางฮุ่ย ซาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายกิจการจีนของโกลด์แมน แซคส์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box Asia” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “ขณะนี้การส่งออกถือเป็นรายได้หลักของจีน และดิฉันคิดว่ารัฐบาลจีนอาจจะต้องเตรียมการในเรื่องนี้ เราคาดว่าไม่เพียงแค่สหรัฐเท่านั้นที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน แต่ยังรวมถึงประเทศคู่ค้ารายใหญ่อื่น ๆ ของจีนด้วย ดังนั้น สถานการณ์ในขณะนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าการส่งออกอาจจะไม่ใช่แรงผลักดันทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของจีน”
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นคู่ค้าระดับภูมิภาครายใหญ่ที่สุดของจีน แซงหน้าสหภาพยุโรป
ในช่วงที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2561 เขาได้ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน และล่าสุดเขาขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 60% หากเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้
ข้อมูลจากซิตี้กรุ๊ปบ่งชี้ว่า การส่งออกสินค้ามีส่วนช่วยหนุนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาส 2/2567 ในอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2565
ทางด้านนายเจ.ดี. แวนซ์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์หลังจากได้รับเลือกจากนายทรัมป์ให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีว่า จีนคือปัญหาที่แท้จริงของสหรัฐ ไม่ใช่สงครามยูเครน และยังกล่าวด้วยว่าจีนเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของสหรัฐ
ทั้งนี้ นางซาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายกิจการจีนของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า “ทางการจีนจำเป็นต้องคำนึงถึงอุปสงค์ภายในประเทศและมุ่งเน้นแนวทางที่สร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อรับมือหากนายทรัมป์บังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 60% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมาก และเราคิดว่าผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาคนั้นมีนัยสำคัญอย่างมาก”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 67)
Tags: จีน, เศรษฐกิจจีน, โกลด์แมนแซคส์