ทิสโก้คัด 14 กองทุน 3 ธีมเด่น สร้างกำไรในครึ่งปีหลังรับดอกเบี้ยขาลง-เศรษฐกิจฟื้น

นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า ทีม Wealth Advisory มองว่าการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง “หุ้น” จะเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจในช่วงอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวเป็นขาลง และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว

โดยแนะนำให้ลูกค้าเลือกลงทุนใน 3 ธีมกองทุนหลัก คือ 1. ธีมตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market: EM) ซึ่งมีโอกาสสร้างกำไร 20-25% โดยมีประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ จีน เวียดนาม อินเดีย และไทย 2. ธีมกลุ่มหุ้นเติบโต ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ AI และ กลุ่มพลังงานสะอาด โดยทั้งสองธีมลงทุนเป็นหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสสร้างกำไรอย่างก้าวกระโดดในระยะยาวตามความต้องการของผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม และ 3. ธีมตราสารหนี้โลก ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงต่ำ

สำหรับรายชื่อกองทุนแนะนำภายใต้ 3 ธีมข้างต้น ดังนี้

1. ธีมการลงทุน EM

– กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เอเชีย (UOBSA) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United Asia Fund กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management (Singapore) มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก (Active management)

– กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า (TEMxCH) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนใน Invesco Emerging Markets ex-China Equity Fund Class C-Acc (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือมีการดำเนินธุรกิจหลักอยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งไม่รวมประเทศจีน

กองทุนรายประเทศ แนะนำ 5 กองทุน ดังนี้

– กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย แอคทีฟ อิควิตี้ (TISCOINA-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศอินเดีย หรือบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจในประเทศอินเดียหรือบริษัทที่มีรายได้หลักจากการประกอบกิจการในประเทศอินเดีย

– กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า (UOBSGC) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United Greater China ซึ่งบริหารและจัดการโดย UOB Asset Management ประเทศสิงค์โปร์ มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จีน และไต้หวัน โดยตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่ ได้แก่ ตลาดฮ่องกง ตลาดเซี่ยงไฮ้ ตลาดเซิ้นเจิ้น และตลาดไต้หวัน

– กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (PRINCIPAL VNEQ-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลัก ในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

– กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นไดนามิค (KFDYNAMIC) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในตราสารทุนในประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมีแนวโน้มการเติบโตสูงส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ สถาบันการเงินบริษัทเอกชน หรือเงินฝากธนาคาร

– กองทุนเปิด ทิสโก้ ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TISCOHD-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนหุ้นไทยที่จ่ายเงินปันผลต่อเนื่องซึ่งอยู่ในดัชนี SET HD 30 Total Return Index โดยการใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก

2. ธีมหุ้นเติบโตสูง (Growth Stocks)

กองทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) คือ

– กองทุนเปิดเค เอเชีย เทคโนโลยี หุ้นทุน (K-ATECH) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน JPMorgan Pacific Technology – Class C (acc) – USD (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายเน้นลงทุนไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี สื่อ และการสื่อสาร ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

– กองทุนเปิด ทิสโก้ AI & Big Data (TISCOAI) ความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง) ลงทุนใน Xtrackers Artificial Intelligence & Big Data UCITS ETF ชนิดหน่วยลงทุน 1C (กองทุนหลัก) ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การประมวลผลข้อมูล (Data Processing) และความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security)

– กองทุนเปิด ทิสโก้ Cloud Computing อิควิตี้ (TCLOUD) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี‘คลาวด์ คอมพิวติง’ (Cloud Computing) หรือระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ ผ่านกองทุนอีทีเอฟ Global X Cloud Computing ETF (กองทุนหลัก)

– กองทุนเปิด ทิสโก้ Cyber Security (TCYBER) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มีการพัฒนาและจัดการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และได้รับประโยชน์จากการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน ซึ่งเบื้องต้นกองทุนได้ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน Global X Cybersecurity ETF และ กองทุน Allianz Global Investors Fund – Allianz Cyber Security

กองทุนหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด (Renewable energy)

– กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี (MRENEW-A) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF Sustainable Energy Fund บริหารจัดการโดย BlackRock (Luxembourg) S.A. เพียงกองทุนเดียวที่ลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน (sustainable energy companies) ทั่วโลก

3. ธีมตราสารหนี้โลก (Global Bonds)

– กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล บอนด์ (TGBOND-A) ความเสี่ยงระดับ 5 (ปานกลางค่อนข้างสูง) เน้นลงทุนในกองทุน BNY Mellon Global Credit Fund ชนิดหน่วยลงทุน USD W (Acc.) (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอย่างน้อย 50% ในตราสารหนี้ภาคเอกชนทั่วโลก ส่วนที่เหลือกองทุนหลักจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ภาครัฐ

– กองทุนเปิด อีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) ความเสี่ยงระดับ 5 (ปานกลางค่อนข้างสูง) เน้นลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund กองทุนลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก อย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สิน กองทุนหลักอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุน (EPM) บริหารจัดการโดย PIMCO Global Advisors

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top