ช่วงที่ตลาดหุ้นไทย Performance ตกลงไปมากๆ แบบนี้ การหลบไปลงทุนหุ้นต่างประเทศถือเป็นอีกหนึ่งทางออกในการหาผลตอบแทนที่น่าสนใจ นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ซีอีโอ Jitta Wealth ให้มมุมมองการเลือกลงทุนหุ้นต่างประเทศบนหลักการ 2 ข้อ คือ 1.แนวโน้มการเติบโตตลาด หรือ GDP แต่ละประเทศ และ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน 2.ค่า PE ของตลาด เพื่อดูความถูก-แพงของตลาดหุ้นนั้นๆ
ฉะนั้น หากตลาดประเทศนั้นมี GDP สูง แต่ PE ไม่สูง ก็เข้าข่ายน่าลงทุน ซึ่งปัจจุบัน ตลาดหุ้นจีนเข้าหลักเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ หลังจากราคาปรับลงไปมากแล้ว PE มาอยู่ที่ 12 เท่า ขณะที่ GDP ปีนี้เติบโตได้ถึง 4-5% และ ตลาดหุ้นเวียดนาม PE ใกล้เคียงไทยที่ 17 เท่า แต่ GDP โตกว่าไทย จึงมองว่าน่าลงทุนด้วยเช่นกัน ปีนี้ถือว่าตลาดหุ้นจีนและเวียดนามน่าลงทุนที่สุด
แต่สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ว่า PE ตลาดจะสูงมากแล้ว แต่ก็ยังถือว่าน่าลงทุน เพื่อรอลุ้นโอกาสการเติบโตจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปลายปีนี้ หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับเข้ามารับตำแหน่งคาดหวังจะมีนโยบายที่เอื้อกับตลาดทุน แนะเล่นเป็น Theme อย่างเทคโนโลยียังเติบโตได้ 2 digit และ กลุ่มเฮลท์แคร์ที่เห็นการเติบโตดีขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 67)
Tags: Jitta Wealth, SCOOP, WealthMePlease, ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์