นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2567 มีเรื่องร้องทุกข์ จำนวน 17,050 เรื่อง มากกว่าไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2566 จำนวน 2,611 เรื่อง (มีเรื่องร้องทุกข์ จำนวน 14,439 เรื่อง)
ประเด็นเรื่องร้องทุกข์ที่ประชาชนยื่นเรื่องมากที่สุด 10 ลำดับแรก ได้แก่
(1) การนำเข้าและส่งออกสัตว์นอกราชอาณาจักร โดยขอให้นำช้างพลายประตูผากับพลายศรีณรงค์ที่ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกากลับสู่ประเทศไทย ซึ่งสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้ประสานส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และ มท. รับทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาแล้ว จำนวน 1,710 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 1,690 เรื่อง (98.83%)
(2) เสียงรบกวน/ สั่นสะเทือน เช่น การเปิดเพลงเสียงดังการแสดงดนตรีสด การรวมกลุ่มดื่มสุรา การรวมกลุ่มแข่งรถจักรยานยนต์ การจัดคอนเสิร์ต การจัดงานวัด ร่วม 1,608 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 1,471 เรื่อง (91.48%)
(3) ไฟฟ้า เช่น ปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ไฟฟ้าตกบ่อยครั้งขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า ขอติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง ขอให้ตรวจสอบการคิดอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติขอผันผ่อนการชำระค่าไฟฟ้า รวม 791 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 683 เรื่อง (86.34%)
(4) การเสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบายและโครงการของรัฐ เช่น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเงินดิจิทัล 10,000 บาท นโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวม 730 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 662 เรื่อง (90.68%)
(5) ถนน เช่น ขอให้ปรับปรุงซ่อมแซมถนน ต้องปรับปรุงถนนลูกรังเป็นถนนลาดยางแอสฟัลต์หรือถนนคอนกรีต เนื่องจากถนนชำรุด มีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อมีฝุ่นละอองจากการสัญจรของรถบรรทุก รวม 566 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 389 เรื่อง (68.73%)
(6) โทรศัพท์ เช่น การให้บริการทางโทรศัพท์ของหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรอสายนาน มีการต่อสายไปยังหน่วยงานย่อยภายในหลายครั้ง และคู่สายเต็ม รวม 561 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 450 เรื่อง (80.21%)
(7) ประเด็นเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น ขอให้แก้ไขปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน หลอกลวงให้โอนเงิน หลอกลวงให้ซื้อสินค้า หลอกลวงให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ รวม 488 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 313 เรื่อง (64.14%)
(8) น้ำประปา เช่นขอให้แก้ไขปัญหาน้ำประปาไม่ไหลหรือไหลอ่อนเป็นบริเวณกว้าง การขอขยายเขตการให้บริการ ,ห่อน้ำประปาแตกชำรุด น้ำประปาขุ่นและมีตะกอน รวม 436 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 377 เรื่อง (86.47%)
(9) ประเด็นเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง เสรีภาพ เช่น ขอความช่วยเหลือกรณีการถูกข่มขู่คุกคาม ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกหมิ่นประมาท รวม 409 เรื่องดำเนินการจนได้ข้อยุติ 319 เรื่อง (78%)
(10) การจัดระเบียบการจราจร เช่น ขอให้แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด การจอดรถกีดขวางทางจราจร ขอให้แก้ไขปัญหาระบบสัญญาณไฟจราจรซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาล กิจกรรมประจำปีและการเดินทางกลับภูมิลำเนา รวม 354 เรื่อง ดำเนินการจนได้ข้อยุติ 300 เรื่อง (84.75%)
กรณีช้างพลายที่ส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรี เป็นประเด็นที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นจำนวนมากและต่อเนื่องจากปีงบประมาณที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจกับปัญหานี้และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนรัฐบาลจึงควรให้ความสำคัญและตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อสารให้ประชาชนมั่นใจในความเป็นอยู่ของช้างพลาย
กรณีปัญหาความเดือดร้อนในชีวิตประจำวันและการใช้บริการสาธารณูปโภค เช่น เหตุเดือดร้อนรำคาญจากเสียงดังรบกวน ปัญหาไฟฟ้า น้ำประปา ถนนและโทรศัพท์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงาน บูรณาการทำงานร่วมกันและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดอัตราการร้องเรียนซ้ำ
ประเด็นเกี่ยวกับทรัพย์สิน กลุ่มมิจฉาชีพยังคงมีวิธีการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อจนสูญเสียเงินและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการเชิงรุกร่วมกับการป้องกันและปราบปราม พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กลโกง/กลลวงของกลุ่มมิจฉาชีพให้ประชาชนทราบอย่างทันท่วงที และครอบคลุมทุกช่องทางและทุกพื้นที่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 67)
Tags: คารม พลพรกลาง, ช้างพลาย, ร้องทุกข์