![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2020/10/20201006_IQN_เขตเมืองเก่าร้อยเอ็ด.jpg)
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขอบเขตเมืองเก่าและแนวทางการอนุรักษ์พัฒนาเมืองเก่าร้อยเอ็ด เพื่อป้องกันการทำลายหลักฐานที่สำคัญและอนุรักษ์เมืองเก่าไว้เป็นมรดกของชนรุ่นหลัง รวมทั้งส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
โดยที่ผ่านมา ครม. เคยมีมติเห็นชอบขอบเขตเมืองเก่าและแนวทางการอนุรักษ์พัฒนาเมืองเก่าไปแล้ว รวม 32 เมือง ซึ่งล่าสุด คือ เมืองเก่าพิษณุโลก
สำหรับขอบเขตเมืองเก่า และแนวทางการอนุรักษ์พัฒนาเมืองเก่าร้อยเอ็ด จัดเป็นเมืองเก่าในกลุ่มที่ 2 คือเมืองที่มีความสำคัญตั้งแต่อดีตและมีหลักฐานทางศิลปกรรมรองจากเมืองเก่ากลุ่มที่ 1 โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 3.01 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะเป็นชุมชนโบราณที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบเป็นกำแพงเมือง-คูเมือง เป็นโบราณสถานที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร ซึ่งมีคุณค่าความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี โดยแบ่งเป็นเขตพื้นที่เมืองเก่า 5 พื้นที่ (Zoning) ดังนี้
- พื้นที่ที่ 1 บริเวณใจกลางเมืองร้อยเอ็ด เป็นพื้นที่ศูนย์กลางของเมืองเก่าร้อยเอ็ดประกอบด้วย วัดบึงพระลานชัย สระชัยมงคล บึงพลาญชัย ศาลหลักเมือง สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และอนุสาวรีย์พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์
- พื้นที่ที่ 2 บริเวณวัดกลางมิ่งเมือง วัดบูรพาภิราม วัดราษฎร์ศิริ และย่านการค้าถนนผดุงพานิชด้านตะวันออก รวมถึงแนวกำแพงเมืองคูเมืองทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
- พื้นที่ที่ 3 บริเวณวัดสระทอง วัดเหนือ วัดคุ้มวนาราม และย่านการค้าถนนผดุงพานิชด้านตะวันตก รวมถึงแนวกำแพงเมืองคูเมืองทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
- พื้นที่ที่ 4 บริเวณวัดสระแก้วและชุมชนโดยรอบวัด ย่านชุมชนด้านตะวันตกเฉียงใต้ รวมถึงแนวกำแพงเมืองคูเมืองทางด้านตะวันตกเฉียงใต้
- พื้นที่ที่ 5 บริเวณย่านสถานที่ราชการ ประกอบด้วย แนวกำแพงเมืองคูเมืองทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ อาคารสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษาและย่านชุมชนโดยรอบ
ส่วนแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา สรุปได้ดังนี้
- แนวทางทั่วไป เช่น การมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์ การสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมวิถีชีวิตท้องถิ่นและคุณภาพชีวิต การป้องกันภัยคุกคามจากมนุษย์และธรรมชาติ ระบบจราจรและสิ่งแวดล้อม และการดูแลบำรุงรักษาอาคาร
- แนวทางสำหรับเขตพื้นที่ เช่น
(1) การใช้ประโยชน์ที่ดิน กำหนดให้ใช้เพื่อหัตถกรรม การท่องเที่ยว พาณิชยกรรม การอยู่อาศัย ศาสนสถาน สถานศึกษา หน่วยงานราชการ สาธารณูปโภค นันทนาการ และการรักษาสิ่งแวดล้อมหรือสาธารณประโยชน์เท่านั้น
(2) อาคารและสภาพแวดล้อม กำหนดความสูง สัดส่วนพื้นที่ว่าง (Open Space Ratio) ขนาด ลักษณะ และรูปแบบของอาคารให้สอดคล้องกลมกลืนหรือไม่ทำลายโบราณสถานในพื้นที่
(3) ระบบการจราจรและคมนาคมขนส่ง ส่งเสริมให้มีทางเดินเท้าและการใช้ยานพาหนะขนาดเบา เช่น รถจักรยาน รถลากจูง เพื่อลดมลภาวะ ลดปริมาณการจราจร โดยห้ามรถบรรทุกหนักและขนาดใหญ่เข้าพื้นที่
(4) การพัฒนาภูมิทัศน์ สร้างเส้นทางต่อเนื่องระหว่างเมืองเก่า โบราณสถาน และพื้นที่เปิดโล่งในเมือง
(5) การบริหารจัดการ โดยการออกระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้องกับเขตเมืองเก่า เป็นต้น
น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมครม.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการมาตรการจูงใจหรือการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้ได้รับผลกระทบ เช่น มาตรการทางด้านภาษี มาตรการการยกเว้นค่าธรรมเนียมบางรายการ มาตรการการให้สิทธิพิเศษในการก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่ในบางบริเวณหรือพื้นที่อื่น เป็นต้น เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (6 ต.ค. 63)
Tags: ครม., รัชดา ธนาดิเรก, อนุรักษ์, เมืองเก่า, เมืองเก่าร้อยเอ็ด