ก้าวไกล ไม่หมดหวังยื่นหลักฐานเพิ่มลุ้นศาล รธน.เปิดไต่สวนคดียุบพรรค

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นบัญชีพยานหลักฐานคดียุบพรรคก้าวไกลเพิ่ม เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการพิจารณาคดี แต่ไม่ได้ขอหลักฐานเพิ่มเติมจากพรรคก้าวไกลว่า ก่อนหน้านี้ กกต.ได้ยื่นบัญชีพยานหลักฐาน รวมถึงพยานบุคคล ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญหมดแล้ว จึงไม่แน่ใจว่า ที่จะให้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใด เป็นพยานบุคคลหรือพยานเอกสาร แต่หากให้คาดการณ์น่าจะเกี่ยวข้องกับข้อโต้แย้งและข้อต่อสู้ของพรรคที่แย้งว่า กกต.ยื่นคำร้องโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ในวันนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะไปยื่นบัญชีเอกสารเพิ่มเติม คือคำให้สัมภาษณ์ของประธานกกต. ที่ยอมรับว่า ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบที่กกต. กำหนด ในการยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล เพื่อเป็นการประกอบข้อต่อสู้ของพรรคด้วย

ดังนั้น จึงยังหวังว่าศาลจะเปิดให้มีการไต่สวน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าสุดท้ายแล้ว ศาลฯ จะเปิดให้มีการไต่สวนหรือไม่ คาดว่าจะทราบเร็วที่สุดน่าจะเป็นวันที่ 18 มิ.ย. นี้ และพรรคก้าวไกลหวังว่าศาลฯ จะเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เห็นว่าการไต่สวนอย่างเปิดเผย ย่อมเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย เพื่อทำให้คำวินิจฉัยที่ออกมาเป็นที่ยอมรับ

ส่วนที่ประธานกกต. ระบุว่าการที่ยื่นเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้พรรคก้าวไกลชี้แจง พร้อมมีเอกสารข้อเท็จจริงคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31 ม.ค. 67 มาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้พรรคก้าวไกลชี้แจง นายชัยธวัช ระบุว่า การแยกข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน เป็นคนละเรื่องกับการปฏิบัติ ตามกระบวนการตามกฎหมายและระเบียบที่กกต. เป็นผู้กำหนด และขอย้ำว่าการยื่นร้องยุบพรรค ตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง แต่การปฏิบัติต้องปฏิบัติประกอบกระบวนการตามมาตรา 93 และระเบียบที่กกต. เป็นผู้กำหนด มารองรับการปฏิบัติ ซึ่งต้องมีขั้นตอนที่ให้มีการตั้งคณะบุคคลขึ้นมา เพื่อสรุปรายงานให้แก่นายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณาก่อนจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น การบอกว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ไม่ได้เป็นเหตุผล ที่จะไม่ทำตามกฎหมาย รวมถึงระเบียบที่ตัวเองเป็นผู้กำหนด แม้จะมีพยานหลักฐานเพียงพอ กระบวนการตามขั้นตอนก็ต้องมีครบ และต้องให้พรรคก้าวไกลในฐานะผู้ถูกร้องได้มีโอกาสโต้แย้งก่อน แล้วค่อยมีมติออกมาว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอจึงไปยื่นคำร้องยุบพรรค แม้กระทั่งการที่กกต. มีเอกสารเผยแพร่ให้พรรคการเมืองก็ชัดเจนมาตลอดว่าต้องใช้แบบนี้ ไม่มีช่องทางใดที่ให้กกต. ใช้ดุลยพินิจโดยลำพัง

 

*เชื่อมั่นลูกพรรค ไม่เช็คชื่อ

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นเริ่มมีการเคลื่อนไหวของลูกพรรคได้มีการเช็คชื่อ สส.หรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเช็คชื่อ ตนยังเชื่อมั่นในสส. ของพรรคว่า จะไม่ได้คิดเรื่องตัวเองเป็นตัวตั้ง และเชื่อว่าสส.ของพรรคเห็นความสำคัญของการไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และย้ำว่าไม่ได้เสียขวัญ ไม่มีความจำเป็นต้องเช็คชื่อ

ขณะนี้ สส. ของพรรคโฟกัสกับการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เป็นหลัก โดยอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายช่วง 1 สัปดาห์ที่เหลือ ในการจัดคนและประเด็น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top