นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บมจ.โรงพยาบาลเอกชล (AHC) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2 ปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดศูนย์บริการเต็มระบบทั้ง IPD (In-Patient Department) หรือ “ผู้ป่วยใน” และ OPD (Out-Patient Department) หรือ”ผู้ป่วยนอก ICU (Intensive Care Unit) หรือ “ผู้ป่วยวิกฤต” ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปิดปรับปรุง และพร้อมเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน จำนวนรวมกว่า 20 ห้อง อีกทั้ง เป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ คาดว่ามีปัจจัยสนับสนุนจากช่วงเปิดเทอมและอยู่ในช่วงฤดูฝนส่งผลให้มีผู้ใช้บริการ “กลุ่มแม่และเด็ก” ของโรงพยาบาลมากขึ้น
ทั้งนี้ โรงพยาบาลเอกชลเป็นโรงพยาบาลที่มีจุดเด่นในเรื่องของการดูแลบริการ “กลุ่มแม่และเด็ก” เนื่องจากเด็กมักจะมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอทางโรงพยาบาลจึงจัดแพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแม่และเด็กประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการใช้บริการนอกเวลาที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
บริษัท เดินหน้าตามแผนงาน เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เตรียมเซ็นสัญญากับพันธมิตรจากประเทศไต้หวัน เพื่อเปิดให้บริการนวัตกรรมตรวจเช็คโรคความเสี่ยงที่เกิดจากพันธุกรรม อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติแต่กำเนิด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหล่านี้ได้ในอนาคต
อีกทั้ง เตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ผลิตจากสารสกัดออร์แกนิคที่ได้รับมาตรฐานจากประเทศไต้หวันและสากลเพื่อรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ผิวพรรณ
นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพิ่มศักยภาพการดูแลรักษาโรคซับซ้อน อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้านหัตถการ การผ่าตัดส่องกล้องแบบ MIS (Minimally Invasive Surgery) ช่วยให้ผู้ใช้บริการฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งหัตถการการผ่าตัดที่สามารถส่องกล้องได้ อาทิ ผ่ากระดูกสันหลัง ข้อเข่า ข้อหัวไหล่ และนวัตกรรมการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำอุณหภูมิสูง เป็นการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มที่มีความต้องการใช้บริการด้านเฉพาะทางมากขึ้น ช่วยผลักดันรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15%
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/67 มีรายได้รวม 446.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.70 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)
Tags: AHC, สิริพจน์ มาโนช, หุ้นไทย, โรงพยาบาลเอกชล