คณะลูกขุนแห่งรัฐนิวยอร์กมีคำวินิจฉัยว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความผิดทั้ง 34 ข้อกล่าวหา ในคดีจ่ายเงินลับเพื่อปิดปากนางสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เขาชนะการเลือกตั้งในปี 2559 เพื่อไม่ให้เธอเปิดเผยความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างเธอกับนายทรัมป์
คำวินิจฉัยดังกล่าวซึ่งมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (30 พ.ค.) ส่งผลให้นายทรัมป์วัย 77 ปีกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐมีความผิดในคดีอาญา นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังอาจเผชิญกับคดีอาญาอีก 3 ข้อหาที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผู้พิพากษาฮวน เมอร์ชาน แห่งศาลแขวงเมืองแมนฮัตตันจะอ่านคำพิพากษาเพื่อตัดสินคดีความดังกล่าวในวันที่ 11 ก.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
คำวินิจฉัยของคณะลูกขุนรัฐนิวยอร์กมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่พรรครีพับลิกันจะจัดการประชุมใหญ่ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าพรรครีพับลิกันอาจจะประกาศอย่างเป็นทางการให้นายทรัมป์เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ปีนี้
นายทรัมป์มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับบทลงโทษสูงสุดด้วยการจำคุก 4 ปีในข้อหาแต่ละกระทง และคาดว่าเขาจะยื่นอุทธรณ์ในคดีเหล่านี้
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย. 2566 นายทรัมป์ถูกศาลเมืองแมนฮัตตันสั่งดำเนินคดีอาญาจากกรณีที่สั่งให้นายไมเคิล โคเฮน ทนายความของเขา นำเงิน 130,000 ดอลลาร์ไปจ่ายให้กับนางสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ เพื่อให้ทั้งสองไม่เปิดเผยความสัมพันธ์กับนายทรัมป์ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ซึ่งเข้าข่ายการใช้จ่ายเงินรณรงค์หาเสียงอย่างผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านั้นในเดือนพ.ค. 2562 นายโคเฮนถูกจำคุกที่เรือนจำรัฐนิวยอร์กเป็นเวลา 3 ปี หลังจากที่เขาสารภาพผิดในคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการละเมิดกฎหมายควบคุมการใช้จ่ายในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง, การฉ้อโกงเงิน, การหลีกเลี่ยงภาษี และการให้การเท็จต่อสภาคองเกรส โดยมี 2 คดีที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมายระดมทุนเพื่อการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนายโคเฮนได้นำเงินไปจ่ายให้กับนางแดเนียลส์และนางคาเรน แมคโดกัล อดีตนางแบบนิตยสารเพลย์บอย เพื่อเป็นค่าปิดปากว่าทั้งสองสาวเคยมีความสัมพันธ์กับนายทรัมป์ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 เพื่อเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ให้กับนายทรัมป์ในเวลานั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 67)
Tags: เลือกตั้ง, โดนัลด์ ทรัมป์