นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพ-นาโกย่าอีกครั้ง เพราะญี่ปุ่นถือเป็นจุดหมายสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยว และได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยจะให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ราคาโดยสารเริ่มต้นที่ 3,990 บาท โดยเปิดให้จองตั้งแต่วันนี้- 2 มิถุนายน 67 เริ่มบิน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้
การเปิดเส้นทางบินนาโกย่า ส่งผลให้ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จะมีเส้นทางบินญี่ปุ่นรวม 4 เส้นทาง คือ โตเกียว โอซาก้า ซัปโปโร และเส้นทางล่าสุดคือนาโกย่า ซึ่งทุกเส้นทางต่างเป็นเมืองยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวของชาวไทย มีอัตราการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 89% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้
การเปิดเส้นทางบินนาโกย่าจะช่วยส่งเสริมเครือข่ายเส้นทางที่ครอบคลุมทั่วญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น และนาโกย่ายังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมการกิน มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง ที่เรียกว่า นาโกย่า เมชิ ซึ่งมีทั้งข้าวหน้าปลาไหลและหมูทอด
การเปิดเส้นทางบินนาโกย่าจะทำให้รายได้รวมตลาดญี่ปุ่นของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15% ซึ่งปัจจุบันเส้นทางญี่ปุ่นถือเป็นเส้นทางบินหลักที่ทำรายได้ให้กับไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์เกินกว่า 50%
“ตั้งแต่หลังโควิดมา ทุกเส้นทางที่ทำการบิน ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ บินเข้าญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นนาริตะ โอซาก้า หรือช่วงหน้าหนาวก็บินไป ซัปโปโร ส่วนฟุกุโอกะ โอกินาว่า (FD บิน) ก็เพิ่งเปิดไป บินไปแทบไม่มี Season เลย ไม่มีหน้า low ไม่มีหน้า high โดย Load Factor เฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 93% และผมก็หวังว่า นาโกย่า ที่เป็นเมืองที่มีอะไระเยอะมาก จะมี Load Factor อย่างน้อย 92-95% …เส้นทางญี่ปุ่นเอาจริงนะเลี้ยงแอร์เอเชียเอ็กซ์เลย “
ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางบินใหม่ในญี่ปุ่น 2-3 เมือง เช่น เซนได รวมทั้งเมลเบิร์นในออสเตรเลีย และจุดบินอื่นๆในยุโรป คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วฯนี้ และจะมีเส้นทางบินใหม่เพิ่มอีก 2-3 เมืองภายในปีนี้ โดยบริษัทมีแผนจะรับมอบเครื่องบินเพิ่มอีก 4 ลำภายในปีนี้เป็น 11 ลำจากปัจจุบันที่มีอยู่ 7 ลำเพื่อรองรับเส้นทางบินที่เพิ่มขึ้น และในปี 68 จะเพิ่มเป็น 15 ลำ
ปัจจุบัน เส้นทางญี่ปุ่น ขนผู้โดยสาร 2.8 แสนคน เมื่อเพิ่มเมืองนาโกย่าคาดจะเพิ่มเป็น 3-3.5 แสนคน/ปี
ขณะที่เส้นทางบินไปจีน ยอมรับว่ายังไม่กระเตื้องมากแม้ว่าจะมีมาตาการฟรีวีซ่า เพราะภาวะเศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัว และเห็นว่าคนไทยเริ่มไปเที่ยวจีนมากขึ้น แต่คนจึนยังบินเข้าไทยน้อยอยู่ แต่เชื่อว่ากลางปีหน้า เศรษฐกิจจีนน่าจะแข็งแรงขึ้นก็จะมีผู้โดยสารจีนมากขึ้น ซึ่งมาตรการฟรีวีซ่าก็น่าจะเห็นผลชัดเจน ทั้งนี้ ทั้งสายการบินไทยแอร์เอเชีย และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีจุดบินไปจีน 14 เมืองในปัจจุบัน Loan Factor รวมกันประมาณ 83-86% ซึ่งมองว่าทุกๆ 6 เดือนก็จะเพิ่มเส้นทางบินในจีนต่อไปอีก
ทั้งนี้ คาดว่าในปี 67 สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะมี Load Factor เฉลี่ย 85-86%
พลิกมีกำไรครั้งแรกหลังโควิด เล็งยื่นออกจากแผนฟื้นฟูปลายปีนี้
นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า เส้นทางญี่ปุ่นเป็นเส้นทางที่หล่อเลี้ยงรายได้ให้ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ โดยไตรมาส 1/67 มีผลกำไรจากการดำเนินงานครั้งแรกหลังโควิดราว 1 พันล้านบาท และแม้ว่าในไตรมาส 2-3 ที่เป็นช่วง Low Season แต่รายได้ก็ไม่ตกมาก เหมือนแต่ก่อน และไตรมาส 4 ก็จะพุ่งขึ้นมา ทำให้คาดว่าทั้งปี บริษัทน่าจะมี EBITDA ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท
ขณะแผนฟื้นฟูกิจการก็เดินหน้าทยอยจ่ายหนี้คืนเจ้าหนี้หมดได้หมดภายในเดือนก.ย.-ต.ค. นี้ และจะเตรียมเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาทก่อนจะยื่นออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในปลายปีนี้ โดยการเพิ่มทุนจะมาจากผู้ถือหุ้นฝั่งไทย ที่ปัจจุบันถืออยู่ 51% โดย นายธรรศพลฐ์ ถืออยู่ 48.9% และผู้ถือหุ้นคนไทยรายอื่นๆ ส่วนแอร์เอเชียเอ็กซ์ มาเลเซีย 49% ครั้งนี้จะไม่เพิ่มทุนตามด้วยก็จะลดสัดส่วนลงไป
ทั้งนี้ ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (เที่ยวบิน XJ) บินตรงจากกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) สู่โตเกียว 2 เที่ยวบินต่อวัน, โอซาก้า สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน, ซัปโปโร สูงสุด 1 เที่ยวบินต่อวัน, โซล สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน, ซิดนีย์ สูงสุด 1 เที่ยวบินต่อวัน, เซี่ยงไฮ้ สูงสุด 1 เที่ยวบินต่อวัน (นาโกย่า เริ่มบิน 1 สค จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) รวมสูงสุด 36 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 67)
