นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดงาน SUBCON Thailand 2024 ว่า ปัจจุบันโลกอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่ไทยได้ดำเนินนโยบายความเป็นกลางมาโดยตลอดในช่วงหลายรัฐบาลที่ผ่านมา และจุดยืนทางด้านการเมืองไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับทุกภูมิภาค หวังสร้างไทยเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย เชื่อมั่นช่วยดึงดูดนักลงทุน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนเรื่องนี้น้อยมาก แต่รัฐบาลนี้ได้สานต่อ ซึ่งมีการเซ็น FTA กับศรีลังกาไปแล้ว และในเดือนหน้าจะมีการเร่งเจรจา FTA กับ สหภาพยุโรป เพื่อสร้างการผลิตที่มั่นคงและมีตลาดรองรับที่ชัดเจน รวมถึงจะเร่งดำเนินการแก้ไขข้อกำหนดและความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ เพื่อดึงดูดนักลงทุน
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังสนับสนุนเรื่องพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าปลายปี 2583 ไทยจะใช้พลังงานสะอาดประมาณ 50% ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทใหญ่ๆเข้ามาลงทุน และถือความท้าทายของภาคอุตสาหกรรมไทย
รวมทั้งสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ EV ให้ไทยเป็นฐานการผลิตของภูมิภาคอาเซียน รัฐบาลส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ให้มีการตั้งโรงงานรถไฟฟ้าอุตสาหกรรมให้ไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนและผู้ผลิตค่ายรถยนต์ EV มีหลายรายกำลังเจรจาใกล้จะมีความสำเร็จแล้ว โดยตั้งเงื่อนไขให้มีการชิ้นส่วนผลิตในประเทศไทยด้วย ให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าอุตสาหกรรมไทยจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องและทำให้เราเป็นเบอร์ 1 ในอาเซียน
นอกจากนี้ต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบราง สนามบิน และท่าเรือน้ำลึก รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งมั่นใจว่า ได้จะรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสม และตอบโจทย์นักลงทุนทั่วโลก เพราะในอนาคตกฏหมายระหว่างประเทศเรื่องภาษีจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้การขนถ่ายสินค้า การซื้อขายสินค้าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาก ทำให้การขนส่งทางเรือที่มีต้นทุนถูกที่สุดจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และปัจจุบันช่องแคบมะละกาค่อนข้างจะแน่น ซึ่งหากไม่มีทางเลือกในการขนส่ง อาจเกิดปัญหาได้
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า โครงการแลนด์บริดจ์ไม่ได้เข้ามาเป็นคู่แข่ง แต่เป็นตัวเสริมซึ่งกันและกัน เป็นออปชั่นให้กับระบบการผลิตทั่วโลก ทำให้ไทยมีจุดยืนที่มั่นคงในเวทีการค้าโลก และจุดยืนทางการฑูตที่เป็นกลางของไทยจะสร้างความสบายใจในการมาลงทุน
“การลงทุนตรงนี้ ผมถือว่า เป็นเรื่องให้ประโยชน์ไม่ใช่แค่การค้าเพียงอย่างเดียว จะเป็นเครื่องมือทำให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง มีความเป็นกลาง เป็นเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย ถ้าเกิดใครทะเลาะกับใคร เราไม่สนใจ เราค้าขายอย่างเดียว เราอยากให้ประเทศมีความมั่นคงตรงนี้ เรายืนยันว่า โครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการที่สำคัญมากกว่า การซื้อเรือดำ หรือเครื่องบินด้วยก็ตามที”
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้มั่นใจว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว รัฐบาลนี้ก็เปิดแล้ว ที่จะช่วยภาคอุตสาหกรรมท้องถิ่นและอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาห่วงโซอุปทานทั้งหมดของประเทศไทย เพื่อให้มีการเจริญเติบโตไปคู่กับประเทศที่มีการพัฒนาแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 67)
Tags: เศรษฐา ทวีสิน, แลนด์บริดจ์