กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ (2 พ.ค.) ว่า ได้เรียกพบเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของสถานทูตจีนในกรุงมะนิลา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ “การคุกคามเรือฟิลิปปินส์” ในทะเลจีนใต้
แถลงการณ์ระบุว่า “ฟิลิปปินส์คัดค้านการคุกคาม, การพุ่งชน, การรุมล้อม, การทำตัวน่าสงสัยและการปิดกั้น, การซ้อมรบที่เป็นอันตราย, การใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และการกระทำเชิงรุกอื่น ๆ ของหน่วยยามฝั่งจีนและเรือทหารอาสาทางทะเลของจีนต่อเรือของรัฐบาลฟิลิปปินส์”
ฟิลิปปินส์ได้เรียกตัวนายโจว จื้อหย่ง เจ้าหน้าที่หมายเลข 2 ของสถานทูตจีนในกรุงมะนิลา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ได้สร้างความเสียหายให้กับเรือของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ (PCG) และเรือของสำนักงานประมงและทรัพยากรทางน้ำฟิลิปปินส์ (BFAR) ใกล้สันดอนสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจีน
คำแถลงเผยว่า “การกระทำที่แข็งกร้าวของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงได้สร้างความเสียหายให้กับเรือของ PCG และ BFAR ฟิลิปปินส์เรียกร้องให้เรือของจีนออกจากบาโจ เด มาซินลอก (Bajo de Masinloc) และบริเวณใกล้เคียงทันที” โดยชื่อบาโจ เด มาซินลอก เป็นชื่อในภาษาฟิลิปปินส์ของสันดอนดังกล่าว
ด้านสถานทูตจีนยังไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์
ทั้งฟิลิปปินส์และจีน มีประวัติการพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้มายาวนาน โดยมีการปะทะกันหลายครั้ง โดยเฉพาะการปะทะที่เกี่ยวข้องกับเรือของฟิลิปปินส์และจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการที่หน่วยยามฝั่งจีนใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง
เหตุการณ์ล่าสุดใกล้กับสันดอนสการ์โบโรห์เกิดขึ้นระหว่างภารกิจเพื่อจัดหาเสบียงให้แก่ชาวประมงฟิลิปปินส์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ค. 67)
Tags: จีน, ฟิลิปปินส์, เรือรบ