ก.ล.ต. จับตาอีเวนท์ตั้งบูธหลอกลงทุนจับได้โทษปรับ-จำคุก เตือนโทรสายด่วนเช็คก่อนได้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้บริการด้านการลงทุนกับผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาต และการลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีการชักชวนผ่านการออกบูธในงาน Event หรืองานนิทรรศการต่าง ๆ หรือการเชิญชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกหลอกลวง (scam)

ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นหรือได้รับการชักชวนสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทหรือบุคคลที่ชักชวน รวมถึงรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และสามารถตรวจสอบหลักทรัพย์และโทเคนดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปจาก ก.ล.ต. ได้ที่ www.sec.or.th หรือแอปพลิเคชัน “SEC Check First”

นอกจากนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปจาก ก.ล.ต. ได้ที่ investor alert ตามลิงก์นี้ https://market.sec.or.th/public/idisc/th/InvestorAlert และหากมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัยโปรดแจ้งที่ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” โทร 1207 กด 22 หรือเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.

นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ติดตามและสังเกตการณ์อีเวนท์หรืองานจัดแสดงในลักษณะของการออกบูธที่เกี่ยวกับการแนะนำบริการด้านการลงทุนหรือชักชวนลงทุน รวมถึงประสานงานกับทางผู้จัดงานให้ช่วยกลั่นกรองผู้ที่มาร่วมออกบูธ

กรณีพบข้อสงสัยว่าเป็นผู้ประกอบการที่อาจเข้าข่ายการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตมาเชิญชวนให้ใช้บริการ หรือร่วมลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายตามกฎหมาย ก.ล.ต. จะเข้าไปสังเกตการณ์และเก็บหลักฐานเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. ก็จะประสานงานกับผู้จัดงานให้ดำเนินการปิดบูธและดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก็จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอความร่วมมือผู้จัดงานช่วยสอดส่องและระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายภายในงาน ไม่เช่นนั้นอาจเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนผู้กระทำผิดได้”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top