NWR มั่นใจทั้งปี 63 มีกำไรแม้หั่นเป้ารายได้เหลือโต 20% ลุยประมูลงานใหม่

นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะมีกำไร แม้ว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์รายได้รวมเหลือเติบโต 20% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 25% จากปีก่อนที่มีรายได้ 7.87 พันล้านบาท จากงานที่รอการรับรู้รายได้ (Backlog) ณ ปัจจุบัน 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่เซ็นสัญญาแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ 25% ในช่วงครึ่งปีหลัง

ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อยจากครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 4.82 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2/63 มีอัตรากำไรขั้นต้น 9% และอัตรากำไรสุทธิ 1.1% จากไตรมาส 1/63 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 7% และอัตรากำไรสุทธิ 0.1%

นายปสันน กล่าวว่า อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ยังไม่ค่อยสูงมาก เนื่องจากงานที่รับเข้ามาในช่วงต้นปีและก่อนหน้านี้มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำจากการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่บริษัทจำแป็นต้องเข้ารับงานพราะงานในมือขาดช่วง แต่ช่วงหลังงานที่เข้ามาใหม่มีมาร์จิ้นดีขึ้น โดยบริษัทสามารถเลือกรับงานที่มีมาร์จิ้น 6-9% จึงเชื่อว่าจะทำให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้น

“รายได้ครึ่งปีหลังน่าจะค่อยๆ เติบโตดีขึ้น ทรงตัวหรือดีขึ้นจากครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว ส่วนมาร์จิ้นหลังสิ้นปีน่าจะดีขึ้นในปีหน้า และอัตรากำไรสุทธิจะดีขึ้นด้วย”

นายปสันน กล่าว

ปัจจุบัน รายได้รวมส่วนใหญ่มาจากงานก่อสร้างราว 80% ธุรกิจพรีคาสต์ 15% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอาหาร 4%

นายปสันน กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเข้าประมูลงานอีกราว 5.5 หมื่นล้านบาท คาดหวังจะได้งานใหม่เข้ามาประมาณ 5-10% ของมูลค่างานที่เข้าประมูล สอดคล้องกับแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่งานภาครัฐยังสามารถเติบโตได้แม้จะอยู่ในช่วงโควิด โดยในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 7.4%

นายปสันน กล่าวว่า ในช่วงเกิดการระบาดโควิด-19 แรงงานจากต่างประเทศบางส่วนได้เดินทางกลับประเทศ แต่ก็ยังพอมีแรงงานต่างด้าวและคนไทยซึ่งยอมรับว่ามีผลกระทบด้านแรงงานบ้าง และบริษัทได้ติดต่อผู้รับเหมาช่วงที่มีทั้งแรงงานและวัสดุเข้ามาช่วยบริหารงานให้แก่บริษัท

ด้านธุรกิจใหม่ ได้แก่ โครงการอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ โดยบริษัทเน้นขายสต๊อกบ้านในมือออกไปก่อน ส่วนธุรกิจอาหารภายใต้ Taste Maker ยังไปได้ค่อนข้างดี และร้านอาหาร ทั้ง ร้านอาหารไทย ใบบัว 2 สาขาที่สีลมและลาซาล และร้านอาหารอิตาเลียน L’Oliva Italian Restaurant ได้รับการตอบรับดีมาก

อนึ่ง โครงการอสังหาริมทรัพย์ของ NWR ได้แก่ โครงการวิลล่า บารานี ขายและโอนได้เกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 1 ยูนิต, โครงการบ้านเดี่ยว บารานี พาร์ค ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ปัจจุบันขายไปแล้ว 31% โอนกรรมสิทธิ์แล้ว 12% โครงการบารานี เรสซิเดนซ์ รังสิต คลอง 3 ขายแล้ว 74% โอนกรรมสิทธิ์แล้ว 64% , คอนโดมิเนียม เอสเพน คอนโด ลาซาล 3 เฟส เฟส A ขายแล้ว 97% โอนกรรมสิทธิ์แล้ว 96%, เอสเพน เฟส B ขายแล้ว 75% โอนกรรมสิทธิ์แล้ว 73% และเอสเพน เฟส C อยู่ระหว่างก่อสร้างโดยขายไปแล้ว 30%

ขณะที่โครงการร่วมทุนภายใต้ บริษัท ซี.ไอ.เอ็น เอสเตท จำกัด โดย NWR ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ (CI) ถือหุ้น 60% คือ เดอะ อิสสระ ลาดพร้าว ปิดการขายไปแล้ว, โครงการอิซซี่ คอนโด สุขสวัสดิ์ (ISSI CONDO SUKSAWAT) ปิดการขายแล้ว และรอโอนกรรมสิทธิ์ยูนิตสุดท้าย ส่วนโครงการล่าสุด บ้านอิสสระ บางนา เป็นบ้านเดี่ยว super Luxury ขายไปแล้ว 12% โอนกรรมสิทธิ์ 3 ยูนิต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top