นายอากิฮิโระ ฟูคุโตเมะ ประธานสมาคมนายธนาคารของญี่ปุ่น (JBA) เตือนว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงกดดันด้านราคาจากสหรัฐและจีน ซึ่งเป็น 2 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่น
นายฟูคุโตเมะแสดงความเห็นว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ญี่ปุ่นจะได้รับจากจีนนั้น คือภาวะเงินฝืด ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่จะได้รับจากสหรัฐคือภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นหากนายนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและบังคับใช้นโยบายต่าง ๆ ที่เขาวางแผนไว้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการค้าเป็นอย่างมาก จึงทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจในต่างประเทศ โดยการส่งออกเหล็กและเคมีภัณฑ์ราคาถูกจากจีนอาจตัดราคาผู้ผลิตในญี่ปุ่น และการลดภาษีในสหรัฐอาจส่งผลให้เงินเฟ้อในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นด้วย
“ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดคือเงินเฟ้อในสหรัฐที่อาจกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง และสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นจะยังคงต่ำอยู่ก็ตาม” นายฟูคุโตเมะ
นายฟูคุโตเมะกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ประกาศยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบและเริ่มปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาด เนื่องจากได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ นายฟูคุโตเมะกล่าวว่า แม้ BOJ เริ่มคุมเข้มนโยบายการเงิน และเฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่เขาคาดว่าเศรษฐกิจอาจจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดหุ้น และตลาดอื่น ๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 เม.ย. 67)
Tags: จีน, ญี่ปุ่น, ประเทศคู่ค้า, สหรัฐ, อากิฮิโระ ฟูคุโตเมะ, เงินฝืด, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจญี่ปุ่น