นางคลอเดีย บัค เจ้าหน้าที่กำกับดูแลธนาคารระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุในวันนี้ (21 มี.ค.) ว่า ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนต้องปรับเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงในขณะที่เผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ตั้งแต่การสิ้นสุดลงของอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำพิเศษไปจนถึงคู่แข่งหน้าใหม่ที่ไม่ใช่ธนาคารแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไปได้อย่างรวดเร็ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ของยูโรโซนสามารถรับมือกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเมื่อไม่นานมานี้ โดยสามารถชะลอและหลบเลี่ยงปัญหาจากผลพวงของภาวะปั่นป่วนที่เกิดกับธนาคารสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปีที่ผ่านมาได้เป็นส่วนใหญ่ แต่กรณีดังกล่าวกลับนำมาซึ่งความเสี่ยงที่ว่า ธนาคารพาณิชย์ของยูโรโซนอาจจะชะล่าใจ และกระตุ้นให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ของยูโรโซนเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก
นางบัคระบุว่า การขาดทุนจากการปล่อยเงินกู้ยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก แม้ว่าเศรษฐกิจใกล้ถดถอยก็ตาม แต่การสนับสนุนด้านการคลังและการเงินอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยป้องกันให้ธนาคารพาณิชย์ยูโรโซนรอดพ้นจากผลกระทบเชิงลบ
“กรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการประเมินความเสี่ยงในอนาคต เนื่องจากข้อมูลการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ในอดีตนั้นไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงที่มีต่อคุณภาพสินทรัพย์ในอนาคตได้อย่างแท้จริง” นางบัคกล่าว
ด้วยเหตุนี้ธนาคารพาณิชย์จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้ดีขึ้นเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ในระยะยาว
“ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ธนาคารพาณิชย์ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะแวดล้อมใหม่นี้” นางบัคกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 67)
Tags: ECB, ธนาคารกลางยุโรป, ธนาคารพาณิชย์, อัตราดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ