นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยทิศทางการดำเนินงานในปี 67 โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% จากปี 66 ที่ยอดขายพลาดเป้าและกำไรลดลง ซึ่งบริษัทได้ปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อหนุนให้การเติบโตในปีนี้ดีขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 67 บริษัทยังเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง สะท้อนว่าธุรกิจยังเติบโตได้แม้ปี 66 ภาพรวมตลาดจะลดลง โดยจะเปิดอีก 150 สาขา ทั้งในศูนย์การค้า รวมทั้ง Standalone ที่ยังคงเปิดสาขาต่อเนื่อง แม้ระยะเวลาคืนทุนจะนานกว่าการเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า เพราะการเติบโตของร้าน Standalone สูงถึง 30% ต่อปี เทียบสาขาในห้างที่เติบโตราว 10% ต่อปี
พร้อมกันนั้น จะขยายร้าน Banana Sure เพิ่มในปีนี้อีก 50 สาขา ซึ่งมีต้นทุนการเปิดร้านที่ต่ำ ขณะที่ยอดขายและ GP สูง โดยเมื่อยอดขายโทรศัพท์มือสองในประเทศไทยสูงมาก ก็เป็นโอกาสที่ดีกับบริษัท
ด้านธุรกิจ AION ปัจจุบันมีโชว์รูมเปิดให้ห้างสรรพสินค้าประมาณ 5 สาขา และตั้งแต่เปิดโชว์รูมมีการขายรถไปแล้วประมาณ 2,000 คัน และส่งมอบช่วงเดือนม.ค. และ ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ต้องติดตามต่อว่าผลประกอบการจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ธุรกิจร้าน ADEPT จะเปิดขายเพิ่มอีก 1 แบรนด์ คือ TCL รวมเป็น 4 แบรนด์ และธุรกิจ BeBePhone มีการเสริม House Brand เข้าไปขายในร้านด้วยรวมทั้งร้าน Banana ซึ่งจะเสริม Gross Profit (GP) ให้กับทั้งสองร้านและร้านค้าปลีกในเครือของบริษัททั้งหมด
ด้านธุรกิจ PetPaw มุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มมากกว่าการขยายสาขาหน้าร้าน โดยหวังว่าปีนี้ผลการดำเนินงานจะพลิกบวกได้ สำหรับธุรกิจ DR.Pharma มีแผนที่จะปรับกลยุทธ์โดยเพิ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และขยายสาขาต่อเนื่องหนุนการเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,934.2 ล้านบาท ลดลง 129.6 ล้านบาท หรือลเลง 4.2% เนื่องจากการเติบโตของรายได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ จากการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภคตลอดทั้งปี การปิดปรับปรุงสาขาช่วงปลายไตรมาส 2/66 ซึ่งส่วนใหญ่กลับมาเปิดให้บริการในไตรมาส 4/66 ทำให้รายได้และกำไรหายไปส่วนหนึ่ง และดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นด้วย
“ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ไม่ดี ถ้าเทียบกับยอดขายที่น้อยกว่าคาด และที่แย่ไปกว่าคือกำไรที่ลดลง เป็นสิ่งที่ทั้งผู้บริหารรวมทั้งทีมงานรู้สึกผิดหวัง กับผลงานของเราในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาหลักมาจากช่วงครึ่งปีหลัง จะพบว่าไตรมาส 3/66 ผลการดำเนินงานไม่ค่อยดี แต่ไตรมาส 4/66 แย่กว่าอาจเป็นเหตุที่ทำให้ภาพรวมปี 66 ไม่ดีเมื่อเทียบกับปี 65 “
อย่างไรก็ตาม ในปี 67 จะมีการปิดปรับปรุงสาขาน้อยลงจากปีที่แล้ว ซึ่งการปิดปรับปรุงสาขาจะไม่กระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ย เชื่อว่าดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งบริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานโดยการปรับลดสินค้าคงเหลือ (Inventory) ประมาณ 10-15% รวมทั้งลดอัตราการหมุนของสินค้าคงเหลือ (Inventory turnover) จาก 53 วันเหลือ 45 วัน ซึ่งเมื่อ Inventory ลดลงการตั้งสำรองสินค้าเสื่อมราคาก็จะลดลงด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 67)
Tags: COM7, คอมเซเว่น, สุระ คณิตทวีกุล, หุ้นไทย