นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานในปี 67 บริษัทฯ วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ให้บริการสุขภาพแบบใหม่ สามารถยกระดับคุณภาพและบริการที่ตอบโจทย์เท่าทันพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นบน 4 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ด้านการพัฒนาบุคลากรทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ 2. ด้าน Digital Health Tech เพื่อสร้างการเข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว ตรงจุด และแม่นยำ 3. ด้านสิ่งแวดล้อม ที่ตั้งเป้าหมายการเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 73 โดยจะนำร่องที่โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา เป็นแห่งแรก และ 4.ด้าน Wellness วางเป้าหมายที่จะให้โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ขึ้นเป็นผู้นำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะที่การทำงานเพื่อสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่ THG ให้ความสำคัญมาตลอด ล่าสุดได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ภายใต้ชื่อ St. Luke School of Medicine ที่คาดจะเปิดดำเนินการสอนในปี 68 เพื่อมุ่งหวังยกระดับโครงสร้างระบบสาธารณสุขของประเทศให้ดีขึ้นสอดรับเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง THG
ด้านการลงทุนขยายกิจการของ THG มีความคืบหน้าในหลายส่วน อาทิ ก่อสร้างอาคารเพื่อขยายพื้นที่บริการโรงพยาบาลในเครือเพิ่มเติม 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี และโรงพยาบาลธนบุรี ตรัง จะเริ่มทยอยเปิดพื้นที่บริการและเริ่มรับรู้รายได้ในปี 67 เป็นต้นไป ส่วนโครงการโรงพยาบาลธนบุรี รังสิต ขนาด 250 เตียง คาดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการปลายปี 69
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ นอกจากเมียนมาที่มีโรงพยาบาล Ar Yu International ซึ่งยังคงทำกำไรและมีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแม้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศ ปัจจุบัน THG รุกขยายธุรกิจสู่น่านน้ำใหม่ คือ เวียดนาม โดยร่วมกับ IFF Holding ลงทุนในโครงการ BeWell Wellness Clinic ศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงลึกเฉพาะบุคคลที่นครโฮจิมินห์ พร้อมเปิดให้บริการกลางปี 67 และมีการจัดตั้งบริษัท Thonburi Partners Pte. Limited รองรับการลงทุนโครงการในต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
ปัจจุบัน THG มีจำนวนเตียงจดทะเบียนของทุกโรงพยาบาลในเครือ และโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 1,520 เตียง โดยมีโรงพยาบาลในเครือที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล AACI (American Accreditation Commission International) เรียบร้อยแล้ว จำนวน 6 แห่งได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา โรงพยาบาลธนบุรีทุ่งสง โรงพยาบาลธนบุรี ตรัง และโรงพยาบาลราษฎร์ยินดี
สำหรับผลการดำเนินงานปี 66 THG มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,844 ล้านบาท ลดลง 15.0% จากปี 65 ที่ทำได้ 11,540 ล้านบาท ส่วนกำไรทำได้ 393 ล้านบาท ลดลง 76.6% จากปี 65 ที่ทำได้ 1,677 ล้านบาท โดยธุรกิจในส่วนของโรงพยาบาลมีการปรับตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ขณะเดียวกันก็เป็นปีที่ THG มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจในอนาคตหลายโครงการ มีค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนขยายพื้นที่ให้บริการรองรับการขยายตัวของคนไข้ และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยในตลาด รวมถึงเงินปันผลในบริษัทที่เข้าไปลงทุนที่ได้รับลดลง ซึ่งล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อกำไรตามที่คาดไว้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.67 มีมติเห็นชอบการจ่ายเงินปันผลประจำปี 66 ในอัตราหุ้นละ 0.45 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 381.36 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 19 มี.ค.67 กำหนดจ่ายเงินภายในวันที่ 24 พ.ค.67 ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลครั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 66 ในวันที่ 24 เม.ย.67 เวลา 10.00 น. ณ นันทอุทยานสโมสร (ตรงข้ามโรงพยาบาลธนบุรี)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 67)
Tags: THG, ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป, ธนาธิป ศุภประดิษฐ์, หุ้นไทย