โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่า การนำยาลดน้ำหนักชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมาใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอาจเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ได้ 1% ในปีต่อ ๆ ไป เพราะเมื่อภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนลดลงแล้ว ประสิทธิภาพในที่ทำงานก็จะเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า ตลาดยาลดน้ำหนักอาจมีมูลค่าแตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีภายในสิ้นทศวรรษนี้ โดยมีโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) บริษัทเวชภัณฑ์ของเดนมาร์ก ผู้ผลิตยาโอเซมปิก (Ozempic) และอีไล ลิลลี่ (Eli Lilly) ผู้ผลิตยามอนจาโร (Mounjaro) เป็นผู้นำตลาด
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า บริษัทหลายแห่งกำลังพัฒนายา GLP-1 อย่างจริงจัง และอาจมีอีกหลายบริษัทเข้าสู่ตลาดโดยขึ้นอยู่ผลการทดลองทางคลินิก ขณะที่จำนวนผู้ใช้ยา GLP-1 อาจเพิ่มขึ้นถึง 10-70 ล้านคนภายในปี 2571
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า “หากการใช้ยา GLP-1 เพิ่มขึ้นตามจำนวนนี้แล้ว และส่งผลให้อัตราโรคอ้วนลดลง ก็อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง”
โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่า ยาลดน้ำหนักอาจหนุน GDP ของสหรัฐ 0.4% ในกรณีที่มีผู้ใช้ 30 ล้านคน และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 1% หากมีผู้ใช้ 60 ล้านคน
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระแสนวัตกรรมในแวดวงสุขภาพ เช่น การค้นคว้ายาใหม่โดยใช้ AI ประกอบกับกลุ่มยา GLP-1 สามารถเพิ่มระดับ GDP ของสหรัฐได้ถึง 1.3% ในปีต่อ ๆ ไป หรือเทียบเท่า 3.60 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี โดยมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 0.6% เป็น 3.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 67)
Tags: GDP สหรัฐ, ยาลดน้ำหนัก, โกลด์แมน แซคส์, โรคอ้วน