BBIK โตกับเทรนด์โลกเป้านิวไฮติดต่อกันปีที่ 7 อัพรายได้พุ่ง รุกคืบกวาดหุ้น Innoviz-ลุยทำดีล M&A เพิ่ม

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง 50% ทำ New High เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน จากปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) และการ Synergy ร่วมกันของบริษัทในเครือเสริมความแข็งแกร่งของอีโคซิสเต็ม รวมทั้งขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

“แม้ต้องเจอกับความท้าทายหลายด้านในช่วงที่ผ่านมา แต่บลูบิคยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่อยู่ในระดับสูงถึง 80% นับตั้งแต่ปี 60 ถึง 66 และในปีนี้เราเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพเช่นที่ผ่านมา และทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ซึ่งเป็นผลมาจากอีโคซิสเต็มด้านบริการที่แข็งแกร่ง และแผนการลงทุนในธุรกิจที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกันของบริษัทย่อยในเครือ” นายพชร กล่าว

ทั้งนี้ BBIK แจ้งผลประกอบการปี 66 มีกำไร 278.56 ล้านบาท จากปี 65 กำไร 127.09 ล้านบาท

นายพชร กล่าวว่า บริษัทมี Backlog ณ สิ้นเดือน ธ.ค.66 ราว 863 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของบริษัท 709 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 579 ล้านบาท และบริษัทร่วมทุนอีก 154 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้เกือบทั้งหมดในปีนี้ ขณะที่คาดหวังการเติบโตของ Backlog อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมุ่งเน้นไปที่งานภาคเอกชน และปีนี้จะรุกงานภาครัฐมากขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% เนื่องจากภาครัฐเตรียมจะเร่งใช้จ่ายงบประมาณ อย่างไรก็ตาม งานของเอกชนยังเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท

ขณะที่ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตยังมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีเต็มปี โดยบริษัทอยู่ในระหว่างการขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้กับบริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด (BBVC) และบริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ (Innoviz) คาดว่าจะได้รับอนุมัติไม่เกินไตรมาส 3/67

และบริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปี 67 เพิ่มขึ้นจากการเข้าถือครองหุ้น Innoviz เพิ่มจาก 55% เป็น 85% ด้วยงบลงทุน 230 ล้านบาท คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.พ. 67 นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นเพิ่มอีก 15% เพื่อถือครองหุ้น Innoviz ให้ครบทั้ง 100%

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ Innoviz ปี 66 มีกำไรสุทธิราว 50 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้และกำไร 15% ต่อปี โดยการเข้าถือหุ้นเพิ่มเติมจะทำให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น และสร้างการเติบโตให้กับบริษัทด้วย

สำหรับการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ มุ่งเจาะตลาดที่มีศักยภาพสูง จากปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ อินเดียและเวียดนาม เพื่อให้บริการลูกค้าในประเทศอื่น ๆ และอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีแนวโน้มการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเติบโตต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทวางแผนในการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทย่อยในเครือ เพื่อสร้าง Economy of Scale รวมถึงการเพิ่ม Employee Utilization Rate ของพนักงาน พร้อมทำ Cross-Selling และ Up-Selling ขยายการให้บริการพร้อมผลิตภัณฑ์ผ่านฐานลูกค้าของแต่ละบริษัทในเครือ เพื่อให้บริษัทสามารถรองรับการเติบโตในอนาคตได้

และบริษัทมีแผนการเพิ่มรายได้ In-Organic Growth รวมถึงการมองหาดีล M&A ใหม่ ๆ เพื่อเสริมแกร่งและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของบริษัทย่อย อาทิ บริษัท ซอส สกิลล์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจ Corporate Training ยกระดับทักษะด้านดิจิทัล ธุรกิจ และความเป็นผู้นำองค์กร ได้รับการตอบรับอย่างสูงตั้งแต่ต้นปีนี้ และทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับแผนต่อยอดการเติบโตของบริการหลักจากเทรนด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน อาทิ

1.เทรนด์การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Agile เพื่อสร้าง Hyper Scaling ให้กับองค์กรที่ต้องการสร้าง Digital Ecosystem ที่มีความยืดหยุ่นสูง และรองรับการเปลี่ยนแปลงของความต้องการทางธุรกิจได้ทุกแง่มุมผ่านผลิตภัณฑ์ EDNA (Event-Driven Nano Architecture) ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีความยืดหยุ่น รองรับการปรับเพิ่มและลดขนาดการใช้ทรัพยากรได้อย่างอิสระ โดยไม่กระทบบริการอื่น

2. เทรนด์ด้าน Generative AI ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถให้กับองค์กรในปัจจุบัน โดย Democratized Generative AI เป็นหนึ่งในบริการของบลูบิคที่จะช่วยให้องค์กรเข้าถึงเทคโนโลยี Gen AI ในวงกว้าง ช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การลดงานซ้ำซาก และยกระดับการเข้าถึงลูกค้าผ่านการหา Customer Insights ด้วย AI เป็นต้น

3. เทรนด์การโจมตีทางด้านไซเบอร์ ที่รุนแรงขึ้นจนสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจ ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 70% ทั่วโลก ระหว่างปี 66-71 จึงทำให้บลูบิคพัฒนาบริการที่เรียกว่า ‘Cyber Guardians’ ที่จะช่วยปกป้อง ป้องกัน รับมือ และคุ้มครอง รวมถึงยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับองค์กรธุรกิจ ถือได้ว่าเป็นการให้บริการด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ที่เข้มข้นและครอบคลุมกว่าเดิม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 67)

Tags: , , ,
Back to Top