พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมประจำปี 2563 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) “ชีวิตวิถีใหม่ ประเทศไทยหลังโควิด” ว่า โลกกำลังเผชิญความท้าทายใหม่ คือ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ สังคม ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ที่ผ่านมาทุกคนในประเทศไทยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันโควิด-19 แม้ผลที่ออกมาจะน่าพอใจ และผู้ติดเชื้อภายในประเทศยังคงเป็นศูนย์ แต่ก็ประมาทไม่ได้ ต้องเตรียมตัวปรับตัวพร้อมเผชิญความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
รวมถึงต้องเดินหน้าต่อไปในเชิงรุกตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งบชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนปฏิรูปประเทศ โดยต้องปรับให้มีการเตรียมรับมือแบบ New Normal และที่ผ่านมารัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อช่วยลดภาระให้ประชาชน โดยโครงการต่างๆ จะต้องส่งต่อจากปีงบประมาณ 2563 ไปยังปีงบประมาณ 2564 และสิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่รอดได้ในสถานการณ์เช่นนี้ และคาดว่าโควิด-19 จะยังไม่จบง่ายๆ เพราะขณะนี้หลายประเทศยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
“การทำแผนจะเป็นเข็มทิศให้การพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายที่ชัดเจน”
พล. อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมา การบริหารประเทศจะมีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จบ้าง แต่เชื่อว่าการดำเนินงานของรัฐบาลจะช่วยให้ประเทศดีขึ้น ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจของทุกประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ไม่ใช่ว่าไทยบริหารราชการล้มเหลวเพียงประเทศเดียว พร้อมย้ำว่าต้องช่วยกันทำให้ประเทศเกิดความปรองดอง ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีศักดิ์ศรีและความเท่าเทียม ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานของประเทศคือความรักชาติรักแผ่นดิน จะเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับทุกคน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ทุกประเทศจะล้มกันหมดจากสถานการณ์โควิด แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องหาวิธีลุกขึ้นให้ได้โดยเร็ว ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาความสามารถของประเทศจะต้องพร้อมปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อการเติบโต ทั้งนี้ จะต้องมีการปรับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อรับมือโควิด-19 ซึ่งต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 และต่อเนื่องไปยังฉบับที่ 13
โดยกำหนดประเด็นการพัฒนาที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ การเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ การยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคน ที่ถือเป็นสิ่งวำคัญที่สุด โดยเฉพาะการพัฒนาจิตใจ ที่เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่จะเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันพัฒนาจิตใจให้ประเทศมีความแน่นแฟ้น มีความสามัคคี พร้อมเผชิญปัญหา และสุดท้ายการปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสนิมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ
ทุกอย่างจะดำเนินการได้ ต้องมีความความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ที่ต้องร่วมมือกัน และต้องรวมพลังกัน ทุกคนเป็นคนไทยที่ต้องมีส่วนร่วมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมมุ่งมั่นสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งปัญหาหลายอย่างสะสมมาเป็นเวลานาน รัฐบาลพยายามแกะปมปัญหาออกมาแก้ไข ทั้งนี้ หวังว่าจะเห็นประชาชนเรียนรู้อย่างมีเป้าหมาย มีความสร้างสรรค์ นำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ เคารพกฎหมายและสิทธิของผู้อื่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 63)
Tags: นายกรัฐมนตรี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, สศช., สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, เศรษฐกิจไทย, แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี