“ภูมิธรรม” เห็นใจ “ก้าวไกล” เคยมีชะตากรรมเดียวกัน แนะทำงานการเมืองต้องมีจุดสมดุล

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการแก้ไขมาตรา 112 ว่า เราแสดงจุดยืนที่เห็นแล้วว่าเรื่องนี้อาจจะกระทบกระเทือนสาธารณชนตัดสินใจไปก็จะมีผลกระทบต่อคนบางกลุ่ม และสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ให้กับสังคม จึงต้องบอกว่าต้องเกิดฉันทามติ พูดคุยกัน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ และวันนี้สถาบันมีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจน

ดังนั้นในการทำงานแก้ไขปัญหา มองว่า มีเรื่องสำคัญอื่นอีกมากทั้งในเรื่องชีวิตของประชาชนความยากลำบากเศรษฐกิจยาเสพติดที่ยังมีผลกระทบอยู่ คิดว่าเรื่องด่วนจริงๆคือไม่ใช่เรื่องนี้

“เห็นใจพรรคก้าวไกลเพราะเคยอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือว่าปัญหาในการทำพรรคการเมืองต่างๆอยู่ที่จุดสมดุล ใช้กันได้ทุกเรื่องไม่ว่าการเมืองเศรษฐกิจสังคมและการแก้ไขปัญหาดำเนินการทางการเมือง “จุดสมดุล” หมายความว่า ในสังคมประชาธิปไตยรับประชาธิปไตยเกือบทุกที่ยอมรับความแตกต่างและสงวนความแตกต่างได้แต่ละความแตกต่างเป็นความแตกต่างที่มีความเป็นอิสระของตัวเอง ต้องเคารพทั้งหมด การจัดการต่างๆก็ต้องหาจุดสมดุลให้เพียงพอไม่มีความคิดใครเก่งที่สุด ดีที่สุดหรือเป็นประชาธิปไตยกว่ากัน แล้วไม่เคารพความเห็นที่แตกต่าง วันนี้แม้ว่ามีสส.มาคนเดียว ก็ล้วนเป็นสส.ที่ประชาชนเลือกมา เพราะฉะนั้นการคำนึงถึงหลายเรื่องที่ต้องไปเกี่ยวพันกับชีวิตประชาชนหรือโครงสร้างสถาบันทางการเมืองเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ประเทศชาติล้วนแต่ต้องคำนึงถึงความเห็น ที่แตกต่างกันและต้องเคารพในความเห็นที่แตกต่างกันถ้าเป็นอย่างนี้การทำงานทางการเมืองจะเข้าใจความต้องการของคนทุกส่วนทุกกลุ่มได้ดีมากกว่านี้และจะร่วมมือกันทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประเทศได้สูงกว่านี้”นายภูมิธรรม กล่าว

*ขอโอกาสรัฐบาลเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” แก้วิกฤตเศรษฐกิจ ห่วงซ้ำรอยต้มยำกุ้ง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ควรจะใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนก่อน สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำครั้งนี้ ยืนยันว่า Digital wallet เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการที่จะทำให้ประเทศที่กำลังวิกฤตอยู่ได้รับการแก้ไข บางคนบอกว่าไม่วิกฤต แต่ตนคิดว่าเรื่องวิกฤตหรือไม่ มันเลยขั้นนั้นมาแล้ว

“วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือวิกฤตทางการเงิน มาเรื่อยๆ นักเศรษฐศาสตร์ตระกูลหนึ่งบอกว่าถ้าวันนี้ไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรง ถ้าเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน วิกฤตการณ์แบบต้มยำกุ้งปี 40 จะกลับมา ถ้าพูดอย่างนี้ก็ต้องรีบกลับมาทบทวน แต่ถ้าฝ่ายที่ยังยืนยันว่าไม่วิกฤต ถ้าหากอีก 2-3 ปีข้างหน้า วิกฤตแบบต้มยำกุ้งกลับมา ต้องไม่ใช่วิจารณ์อย่างเดียวแล้ว ผมถามหาความรับผิดชอบด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลได้แถลงต่อสภาชัดเจนแล้ว และได้หาเสียงกับประชาชนแล้ว ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานเดินไปและรับผิดชอบต่อนโยบายของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอยากฝากให้เป็นแง่คิดกับทุกคน พูดอย่างนี้ไม่ได้คิดว่าจะไปอะไรกับใคร แต่เป็นเพียงความเห็นหนึ่งที่ให้ทุกคนพิจารณาเพื่อให้ประเทศชาติได้เกิดประโยชน์ และได้เดินหน้าต่อไป” นายภูมิธรรม กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 67)

Tags: , ,
Back to Top